จากกรณีมีการนำรถชีวนิรภัยพระราชทาน 5 คัน เข้าตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ตั้งแต่ 12 ต.ค. 63 เป็นต้นมา โดยวันที่ 13 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมาได้เข้าตรวจชุมชนถุงทอง เขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก พื้นที่มัสยิดมะดีนะฮ์, ตลาดสดพาเจริญ และหมู่บ้านแม่ตาว อ.แม่สอด จำนวนรวม 2,995 ราย

จนกระทั่งเมื่อเย็นวันที่ 16 ต.ค. 63 พบว่าสองสามีภรรยาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านถุงทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนแออัด ใกล้กับแหล่งชุมชนซึ่งมีทั้งคนไทยและคนพม่าพักอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่น ที่เข้ารับการตรวจสารคัดหลั่งในมัสยิดมะนีนะฮ์ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนั้นเจ้าหน้าที่ทีมควบคุมโรคติดต่อหลายชุดปฏิบัติการเชิงรุกได้เข้าไปนำตัวสองสามีภรรยาเข้ากักตัวรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดโดยทันที 

 

นอกจากนี้ยังส่งทีมเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปสอบสวนโรคและพบผู้เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยสองสามีภรรยา ในจำนวนนี้มีอยู่ 5 รายเป็นลูกหลานที่พักอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันกับสองสามีภรรยาที่ติดเชื้อโดยตรง และยังพบกลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นคนต่างด้าวในมัสยิดมะนีนะฮ์อีก 4 คน จึงเร่งนำตัวทั้งหมดเข้าศูนย์กักตัวนอกเมืองแม่สอด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กลุ่มเสี่ยงทั้ง 9 รายเป็นรอบที่สอง ขณะนี้ยังรอผลการตรวจอย่างเป็นทางการ

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สองสามีภรรยาที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคนสุขภาพแข็งแรง ไม่มีการแสดงอาการผิดปกติในร่างกายแต่อย่างใด และจากการสอบสวนโรคพบว่าทั้งคู่ซึ่งเป็นชาวพม่า เข้ามาอาศัยในชุมชนถุงทองมานาน มีลูกชาย 2 คนทำงานที่ท่าขนส่งสินค้าชายแดนไทย-พม่า เบื้องต้นคาดว่าลูกชายอาจสัมผัสกับคนขับรถชาวพม่าที่ติดเชื้อโควิด ซึ่งข้ามมาจากฝั่งจังหวัดเมียวดีเข้ามาส่งสินค้าในโกดังแม่สอด