ชาวบ้านสุดทนโจรใจบาป ลักลอบตัดไม้พะยูงวัดพระโต ล้มทับกุฏิสงฆ์
15 ต.ค. 2563, 09:30
ปรากฏเป็นเรื่องราวที่กำลังเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนในโลกสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สายบูรพา บนดอย ได้ออกตีแผ่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวัดพระโต ตำบลกุดน้ำใส อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ซึ่งถูกลักลอบตัดไม้พะยูง เป็นรอบที่สาม ซึ่งครั้งนี้พะยูงยังได้หักโค่นล้มใส่กุฏิของพระสงฆ์ภายในวัด ได้รับความเสียหาย
โดยเจ้าของโพสต์เผยว่า โดนลักลอบตัดไม้พะยูงในวัดพระโต รอบที่ 3 แถมยังหักใส่กุฏิใหญ่ รอบนี้ตัดไป 2 ต้น บาปนี้หนักนัก หากผีสางนางไม้ภูมิที่เทวา รู้ทราบว่าผู้ใดมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ เกี่ยวข้อง ขอให้เห็นแจ้งในกรรมนี้ ในเร็ววันนี้ มาขโมยบ่อยจนย่ามใจ เพราะคิดว่าไม่มีใครจับได้ แต่คนขโมยหารู้ไม่ว่า ชาวบ้านเขาก็รู้ เจ้าหน้าที่ก็รู้ตัวว่ามีใครบ้าง เพียงแต่รอให้กรรมส่งผลก่อน ถึงได้ไปก็ทำอะไรไม่เจริญ ชั่วลูกหลาน ตายไปแล้วยังต้องมาเป็นเปรตเฝ้าต้นที่ตัวเองตัด หนีไปเถอะถ้าคิดว่าหนีพ้น จะบอกว่าไม่มีทางเลือก คุณมีทางเลือกเยอะแยะแต่คุณกลับมาเลือกทางที่มืดมน ได้ไม้จากการสาปแช่งของคนอื่น กรรมยิ่งหนักหนา ไม่มีทางเจริญในความเป็นมนุษย์อย่างแน่นอน
ขอความอนุเคราะห์ช่วยแชร์ข่าว เนื่องจากวัดพระโต บ้านติ้ว ได้มีผู้เข้าไปลักลอบตัดไม้พะยูง ของวัด จำนวน 2 ต้น อายุร่วม 80 ปี เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ ตี 1 ซึ่งช่วงนั่นมีฝนตกหนักทำให้ผู้ลักลอบตัดไม้ได้ตัดต้นพะยูง ทำให้ต้นพะยูงหักทับกุฏิพระสงฆ์เสียหายจำนวน 1 หลัง เบื้องต้น คณะกรรมการวัด ผู้ใหญ่บ้านบ้านติ้ว ได้เข้าแจ้งความกับสภ.ค้อวัง และที่ว่าการอำเภอค้อวัง ไว้เรียบร้อย แต่เนื่องจากที่วัดพระโตแห่งนี้ เคยมีการขโมยตัดไม้พะยูง และไม้สักทองของวัดไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถจับผู้ทำผิดมาลงโทษได้
จึงขอให้ทุกท่านช่วยแชร์ข่าวนี้ เพื่อให้สังคมได้ทราบ และระมัดระวังในการช่วยกันสอดส่องดูแล ต้นไม้หวงห้าม ไม้ให้กลุ่มมิจฉาชีพ เข้ามาทำลายทรัพย์ของแผ่นดินไทย เพียงเพื่อประโยชน์ส่วนน้อย และฝากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ช่วยเร่งสืบกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าไม่ยากเกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ เพราะรู้ความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ และมีข้อมูลอยู่แล้ว รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ได้รับผลประโยชน์ แต่เรื่องนี้กลับเงียบไม่มีการดำเนินการต่อแต่อย่างใด ทิ้งให้เป็นปัญหาที่ต้องสร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนอย่างต่อเนื่อง และอีกอย่าง คนเหล่านี้ไม่เกรงกลัวกฎหมายอะไรเลย จึงขอฝากสื่อได้ช่วยติดตาม และนำเสนอข่าวเพื่อให้สังคมได้รับรู้ข้าวสาร ความเดือดร้อนของพวกเราด้วย