ยายวัย 64 ปี ยืนยัน!! ไม่เคยรู้จักคนร้ายยิงสายลับตำรวจล่อซื้อยาบ้า
5 ต.ค. 2563, 17:04
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากการที่ได้มีเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนจาก สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ใช้ให้สายลับมาติดต่อล่อซื้อยาบ้าที่บ้านเลขที่ 19 บ้านเหล่าโนนตูม ม.13 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ แต่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่สายลับที่เข้าไปล่อซื้อยาบ้าจำนวน 3 นัด กระสุนปืนโดนเข้าที่ท้องทะลุออกด้านหลัง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว เนื่องจากกระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จากนั้น คนร้ายได้อาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีไป จากนั้น พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้ายและจัดชุดไล่ล่าคนร้ายเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 5 ต.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 19 บ้านเหล่าโนนตูม ม.13 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า ได้มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านใกล้เคียงพากันมาเยี่ยมให้กำลังใจกับ นางกม คำแอ่ง อายุ 64 ปี เจ้าของบ้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนางกม ได้นำเพื่อนบ้านไปดูสภาพบ้านเรือนของตนที่ถูกชายฉกรรจ์ลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ ตร.ได้พากันเข้ามาบุกงัดพังบ้านเรือนของตนเองจนพังเสียหาย โดยฝาบ้านโดนงัดเอาไม้ออกไปหลายแผ่น เศษไม้มากองอยู่บนที่นอนภายในบ้าน ตู้เสื้อผ้ากระจกแตกเสียหายยับเยิน ข้าวของภายในบ้านถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย โดยนางกม ยังไม่ได้จัดเก็บสิ่งของที่พังเสียหาย เนื่องจากว่า นางกมอายุมากแล้วอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพังคนเดียว มีโรคประจำตัวหลายโรค ทำให้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง
นายสมยศ สิงห์ทรายขาว อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 13 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค.63 ตนกำลังเลี้ยงหลานอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงร้องตะโกนเอะอะโวยวายเสียงดังลั่น และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัดติดต่อกัน ตนจึงได้รีบเดินมาอยู่ที่เกิดเหตุพบว่า มีชายฉกรรจ์หลายคนแต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ ตร.ถือปืนและไฟฉาย ได้ร้องตะโกนบอกตนว่า ใครไม่เกี่ยวข้องให้เข้าบ้านไป ตนจึงได้รีบเข้าไปในบ้านและได้ให้หลานชายรีบวิ่งไปที่วัดบ้านโนนตูมที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร เพื่อไปตามนางกม ที่ไปสวดมนต์อยู่ที่วัดให้รีบกลับมาดูบ้านของตนเองที่มีการยิงกัน โดยตนได้ยินเสียงการงัดบ้านเพื่อที่จะเข้าไปจับกุม นายณัฐ (นามสมมุติ) ซึ่งเมาเหล้านอนหมดสติอยู่ในบ้านของนางกม โดยเจ้าหน้าที่ได้งัดบ้านของนางกม เข้าไปจับกุมตัว นายณัฐ ที่นอนหลับอยู่บ้านของนางกมได้ แต่ว่าทำให้บ้านของนางกม พังเสียหายยับเยิน ตนจึงอยากขอวอนให้กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่บุกเข้าไปพังบ้านของนางกม ได้ให้การช่วยเหลือเร่งซ่อมแซมบ้านของนางกม ให้อยู่ในสภาพเดิมโดยด่วนด้วย
นางกม คำแอ่ง อายุ 64 ปี เจ้าของบ้านที่พังเสียหาย กล่าวว่า ตนไม่เคยรู้จักกับคนร้ายที่ยิงสายลับของตำรวจแต่อย่างใด โดยก่อนตนไปสวดมนต์ที่วัด พบว่ามีเพียงกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านประมาณ 4 - 5 คน พากันมานั่งกินเหล้าอยู่บริเวณแคร่หน้าบ้านของตนไม่ทราบว่า ใครเป็นคนร้าย ตนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ว่าเมื่อมีการจับกุมคนร้ายแล้วทำให้บ้านเรือนของตนพังเสียหาย ตนขอวอนส่วนราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขอได้โปรดเข้ามาให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนทรัพย์สินของตนที่พังเสียหายโดยด่วนด้วย เนื่องจากว่า ตนมีฐานะยากจน ไม่มีที่นาทำกิน อาศัยอยู่ตัวคนเดียว สุขภาพไม่แข็งแรง ไม่สามารถที่จะซ่อมแซมบ้านของตนที่ถูกทำให้พังเสียหายด้วยตนเองได้
นางอุไร สิงห์ทรายขาว อายุ 54 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตร. ที่ทุ่มเทในการจับกุมคนร้าย แต่ว่า เมื่อทำให้บ้านเรือนของ นางกม พังเสียหาย ตนจึงขอวอนให้เจ้าหน้าที่เข้ามารับผิดชอบซ่อมแซมบ้านเรือนของนางกม โดยด่วนด้วย เนื่องจากว่า นางกม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่อย่างใด อีกทั้งนางกม ฐานะยากจนมาก ไม่มีลูกหลานคอยเลี้ยงดู ไม่มีที่นาทำกิน ไม่ควรที่จะให้นางกม มารับผลกระทบจากการจับกุมคนร้ายค้ายาบ้าในครั้งนี้ จึงขอวอนให้ผู้เกี่ยวข้องมาซ่อมแซมบ้านเรือนให้นางกม อย่างเร่งด่วนด้วย