เมื่อเวลา 06.30 วันนี้ (21 ก.ค. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.ปรัชญา มณีสว่าง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุชาวบ้านพบศพชาย 2 คน นอนเสียชีวิตที่ถนนเลียบคลองส่งน้ำ โครงการส่งน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านท่าแจง หมู่ 6 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งเหตุรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อจากนั้น พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อม พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่เกิดเหตุสมทบกับ พ.ต.อ.สมเกียรติ เพ็ญศิริสมบูรณ์ ผกก.สภ.บ่อพลอย พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.เกียรติพงษ์ รอง ผกก.สส.สภ.บ่อพลอย พ.ต.ท.ยุทธศักดิ์ ต้นโพธิ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อุทัย อินทรักษ์ สว.สส.สภ.บ่อพลอย ตร.สืบสวนภ.จว.กาญจนบุรี ตร.สืบสวน สภ.บ่อพลอย ตร.วิทยาการพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี ร.ต.อ.ปรัชญา และแพทย์เวรจาก รพ.บ่อพลอย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ

ในที่เกิดเหตุ พบเป็นถนนลูกรังเลียบคลองไส้ไก่ส่งน้ำระบบชลประทาน ในโครงการส่งน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านท่าแจง หมู่ที่ 6 ตำบลหนองกุ่ม ห่างจากถนนสายบ้านท่าแจง - บ้านทุ่งมะสัง ประมาณ 130 เมตร พบศพเป็นชายนอนเสียชีวิต 2 ศพ ศพแรกคือ นายธวัชชัย หรือ จิว รักษากุล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ต.หนองกุ่ม นอนหงายเสียชีวิตข้างจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง เลขทะเบียน กมท 282 กาญจนบุรี ที่จอดตั้งขาตั้งอยู่ สภาพศพถูกกระสุนยิงเจ้าที่บริเวณหน้าออกทะลุหลังเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ สภาพศพในมือซ้ายกำไฟแช็กแน่นใกล้ศพพบโทรศัพท์และกุญแจของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตกอยู่

ส่วนอีกศพคือ นายเสกสันต์ หรือ “เข ท่าแจง” รูปสม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 6 ต.หนองกระทุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี สภาพนอนหงายถูกยิงเข้าข้างแผ่นหลังกระสุนเข้า 8 รูฝังใน เสียชีวิตห่างศพแรกประมาณ 3 เมตร นอกจากนี้ยังพบหมอนรองกระสุนลูกซองเบอร์ 9 ตกในที่เกิดเหตุ 2 ชิ้น เสียชีวิตมาประมาณ 8-9 ชม. หลังจากนั้นจึงได้มอบศพให้ทางสมาคมมูลนิธิกู้ภัยบ่อพลอย นำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อทำการชันสูตรวิถีกระสุนอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.40 น. นายเสกสันต์ หรือ “เข ท่าแจง” นั่งทานข้าวกับครอบครัวที่บ้านพัก ภายหลังที่รับโทรศัพท์จึงหยุดทานข้าวและขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านและหายตัวไปจนทราบว่าว่าถูกยิงเสียชีวิตเป็นศพบนถนนลูกรังเลียบคลองไส้ไก่ที่เป็นถนนเข้าไปไร่นาของชาวบ้าน สอบสวนชาวบ้านที่อยู่ในระแวกนั้นไม่ทราบว่าเหตุเกิดเมื่อใด เนื่องจากจุดเกิดเหตุไม่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่ใกล้เคียงเลย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งสาเหตุการถูกยิงเสียชีวิตครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น คือ แก้แค้นส่วนตัวหรือไม่ก็เรื่องขัดผลประโยชน์

นางอำพร รูปสม อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 6 ตำบลหนองกุ่ม แม่ของ นายเสกสันต์ ผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าว ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ให้รายละเอียดกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ลูกชายได้นั่งกินข้าวเย็นกับตนเองที่บ้าน ประมาณ 20.00 น.  ยังไม่ทันกินอิ่มได้มีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา ลูกชายได้รับแล้วบอกว่าขอออกไปเดี๋ยวกลับมา โดยไม่ได้บอกว่าไปที่ใดแล้วก็ไม่กลับมาบ้านอีกเลย จนมาทราบในตอนเช้าว่าเสียชีวิตจึงได้พากันเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และมาพบว่าน่าจะเดินทางออกมารับเพื่อนที่เสียชีวิตด้วย เนื่องจากตอนออกจากบ้านมาเพียงคนเดียวเท่านั้น

ส่วน นายสมชัย รักษากุล อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย ที่มาดูศพในที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า นายธวัชชัย เป็นหลานชาย ประกอบอาชีพทำธุรกิจโรงสีข้าวในหมู่บ้านสานต่อจากบิดาที่เสียชีวิค ส่วนตนเองไม่ได้อยู่ด้วย โดยไปอยู่ในพื้นที่อำเภอท่าม่วง เมื่อทราบข่าวจึงได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ไม่ทราบพฤติกรรมของหลานชายว่าไปมีปัญหาอะไรมากนัก เพราะอยู่กันคนละที่ ส่วนพ่อของเขาได้เสียชีวิต โดยทิ้งโรงสีข้าวไว้ให้ได้ประกอบอาชีพ นานๆ ตนเองจะเดินทางไปดูกิจกรรมสักครั้ง

ด้าน นายตุ๋ย ปานเปีย สัปเหร่อของวัดทุ่งมะสัง เป็นผู้พบศพคนแรก ได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองได้เดินทางจากบ้านมาเมื่อประมาณช่วงฟ้าสาง เพื่อไปดูนาข้าวใกล้กับจุดทั้ง 2 เสียชีวิต ตอนแรกไม่คิดว่าพบผู้เสียชีวิต จึงเดินเข้าไปเรียกพร้อมใช้มือไปจับรู้ว่าตัวแข็ง จึงได้ออกไปแจ้งกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว โดยตอนแรกไม่ทราบว่าทั้ง 2 คน เป็นใครจนมาทราบภายหลังว่าทั้ง 2 คือ คนในหมู่บ้าน

 

ด้าน พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี เผยว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุ และลงพื้นที่สืบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเสกสันต์ หรือ “เข ท่าแจง” มีประวัติเคยต้องคดียาเสพติดครองยาบ้า 8 เม็ด ต้องโทษจำคุกเพิ่งพ้นโทษประมาณเดือนกว่าที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของทั้ง 2 คน ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งกำลังชุดสืบสวนออกหาข่าวว่า ได้ติดต่อโทรศัพท์กับใครในช่วงขณะนั่งกินข้าว แล้วก่อนมาทราบว่าเสียชีวิต คาดว่าผู้ตายทั้ง 2 คน น่าจะรู้จักกันมีการหยุดพูดคุยอะไรกันก่อน เนื่องจากกุจแจรถได้ถูกปลดออกจากตัวรถ และผู้ตาย 1 คน ได้กำไฟแช็กแน่นก่อนจะถูกยิงเสียชีวิต คาดว่าผู้ก่อเหตุกระทำความผิดในครั้งนี้น่าจะรู้จักกับผู้ตาย ซึ่งจะติดตามคนร้ายรายนี้ได้ในไม่ช้า