เจอตัวเเล้ว! "แม่ใจร้าย " หอบลูกน้อย ใส่ถุงวางทิ้งป่าตอง
29 ก.ย. 2563, 15:47
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 06.15 น.ของวันที่ 23 ก.ย.63 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าพบเด็กทารกถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณด้านหลังธนาคารกรุงไทย สาขาป่าตอง ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต จึงประสานร้อยเวรป้องกันปราบปราม(ร้อยเวร 20) เจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลป่าตอง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุพบเด็กทารกเพศชาย อายุประมาณ 7 วัน อยู่ในถุงผ้าสีดำ วางอยู่บนเก้าอี้ม้านั่ง ภายในถุงผ้ามีนมที่ชงไว้ 1ขวด ผ้าอ้อมเด็กและเสื้อผ้าต่างๆ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทารกมีร่างกายแข็งแรงดี จึงให้เจ้าหน้าที่ รพ.ป่าตองนำส่งไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย และดูแลที่รพ.ป่าตองจากการสอบถามพลเมืองดีผู้ที่มาพบเห็นเป็นคนแรกเเจ้งว่า ช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเช้าที่ผ่านมา ได้ยินเสียงร้องเบาๆมาจากบริเวณดังกล่าว จึงเดินมาดูพบว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงเด็กทารกจึงได้รีบโทรเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ได้เร่งสอบสวนหาเบาะแส พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงจนพบภาพวงจรปิดบุคคลต้องสงสัยจากกล้องในบริเวณใกล้เคียง 2 จุด คาดว่าเป็นมารดาของเด็กทารก ขณะที่กำลังเดินผ่านเข้าไปยังจุดที่พบทารก โดยเป็นหญิงสาวสวมเสื้อแขนยาวสีแดง สวมกระโปรง ที่หลังสะพายกระเป๋า ซึ่งคาดว่าพักจะอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 29 ก.ย.63 ที่สภ.ป่าตอง พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษศาสตร์ ผกก.สภ.ป่าตอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจษฎา แสงสุรีย์ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ป่าตอง พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง พ.ต.ท. จงเสริม ปรีชา รอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมแถลงผลการจับกุมตัว MRS.EI EI PHYU(อี อี พิว) อายุ 40 ปี สัญชาติพม่าผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นมารดาของเด็กทารกที่ถูกนำมาทิ้งไว้ หลังจับกุมตัวได้ที่แคมป์คนงานแห่งหนึ่งในตำบลตะปาน อ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี พร้อมของกลางทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้ในวันเกิดเหตุ
พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ป่าตองได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าได้มีคนพบเด็กทารก โดยนำไปวางไว้ที่บริเวณม้านั่ง หลังธนาคารกรุงไทยสาขาป่าตอง ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ หลังได้รับแจ้งจึงทำการสืบสวนหาตัวผู้ที่ก่อเหตุ หลังจากที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพยานบุคคลก็ทราบตัว ว่าผู้ที่นำมาวางคืน นาง อี อี พิว เป็นชาติพม่าซึ่งเคยทำงานอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง ก่อนตรวจสอบพบว่านาง อี อี พิว ได้เดินทางด้วยรถประจำทาง ป่าตอง – เมืองภูเก็ต ไปที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 หรือ บขส. 2 ต.รัษฎา และเดินทางต่อด้วยรถโดยสารไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นาง อี อี เพียว ได้ลงรถที่บริเวณละหน้าร้านสะดวกซื้อ ในต.บางมะเดื่อ อ.พุนพิน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงประสานกับ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรภาค 8 และสภ.บางมะเดื่อ เพื่อติดตามตัว และจากการนำพาสปอร์ตของผู้ก่อเหตุไปให้โรงพยาบาลท่าโรงช้างตรวจสอบ ทางโรงพยาบาลยืนยันว่า เป็นบุคคลคนเดียวกันที่มาคลอดบุตรในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 จึงขอที่อยู่จากโรงพยาบาลก่อนติดตามตัวได้ที่แคมป์คนงาน ในต.ตะปาน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีในเวลาต่อมา
ทั้งนี้จากการสอบถามนาง อี อี พิว สารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง และตนเองมีลูกแล้ว 1 คน เมื่อตั้งท้องลูกคนที่ 2 ปรากฏว่าสามีไม่ยอมรับ จึงแยกทางกัน และส่งลูกคนแรกกลับไปประเทศพม่า ก่อนออกจากงานที่ป่าตอง และย้ายไปอยู่ที่จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อคลอดลูกคนที่ 2 ปรากฏว่าประสบปัญหาทางการเงิน จากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้มีรายได้น้อย ไม่สามารถส่งไปให้บุตรคนแรก และเลี้ยงดูบุตรคนที่ 2 ได้ จึงตัดสินใจนั่งรถ จากจ.สุราษฏร์ธานีมายังภูเก็ต และนำบุตรมาวางไว้ที่จุดดังกล่าว หวังว่าจะมีผู้มาพบและรับตัวไปเลี้ยงดูต่อ ก่อนนั่งรถกลับไปที่จ.สุราษฏร์ธานี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล” โดยมีโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีในลักษณะดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นบ่อยในประเทศไทยและภูเก็ต มีการนำเด็กไปทิ้งในสถานที่ต่างๆ ซึ่งถ้าหากเด็กทารกเสียชีวิต หากจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้จะถูกดำเนินคดี ปัญหาก็จบตามกระบวนการ แต่ถ้าเด็กยังมีชีวิตเด็กก็จะเติบโตขึ้น หากติดตามตัวไม่ได้ เราก็จะไม่รู้เลยว่าเด็กคนนี้มีพ่อแม่เป็นใคร มีสัญชาติอะไร ในอนาคตเราจะเป็นตราบาปสำหรับเขา ซึ่งถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใส่ใจ หรือไม่สนใจติดตามตัว มันก็เป็นผลเสียต่อเด็ก ทางเรามีความตระหนักในการติดตามสืบหาตัวบุคคลที่นำเด็กมาทิ้ง ซึ่งในคดีนี้ก็มีสลับซับซ้อนอยู่มาก เนื่องจากว่าผู้ต้องหา เป็นอาศัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องนั่งรถมาทิ้งเด็กแล้วกลับไป เจ้าหน้าที่ถึงต้องใช้เวลาในการสืบสวนทั้งภาพจากกล้องซีซีทีวีและบุคคลต่างๆ สุดท้ายก็สามารถติดตามตัวได้ ขณะนี้เด็กอยู่ในความดูแล ของโรงพยาบาลป่าตอง ส่วนในอนาคตว่าเด็กทารกนั้นจะมีใครเป็นผู้รับเลี้ยงหรือไม่ หรือแม่เด็กอาจจะกลับใจนำเด็กไปเลี้ยงเองหลังสิ้นสุดคดี นั้นก็ยังไม่ทราบได้ ซึ่งก็ต้องว่ากันตามกฏหมาย ก่อนหาแนวทางร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ทั้งนี้ฝากถึงผู้ที่จะคิดทำในลักษณะดังกล่าวว่า ข้ออ้างไม่มีความพร้อมแล้วนำเด็กไปทิ้งไว้เช่นนี้นั้นมีความผิดตามกฏหมาย หากไม่มีความพร้อมควรปรึกษาญาติๆ หรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไม่ควรทิ้งเด็กตามยถากรรม