จากกรณี เกิดเหตุศาลาริมน้ำทรุดตัวพังถล่มลงไปในแม่น้ำแม่กลอง บริเวณท่าเรือข้ามฟากแสงวนิช ข้างวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน และเสียชีวิต 2 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ ( 18 ก.ค.62 ) น.ส.พรรณทิพย์ เปี่ยมพุทธากุล โยธาธิการ และผังเมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่าจากการตรวจสอบสภาพอาคารข้างเคียงศาลาริมที่ถล่มลงแม่น้ำแม่กลอง เป็นอาคารที่สร้างในรุ่นเดียวกันมีสภาพไม่มั่นคงปลอดภัย เนื่องจากตลิ่งบริเวณดังกล่าวมีการกัดเซาะมากขึ้น มีโอกาสทรุดตัวและพังลงไปได้ จังหวัดจึงประกาศให้พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือข้ามฟากแสงวณิช อาคารศาลาริมน้ำตลอดแนวจนถึงบริเวณวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ด้านซอยวัดเพชรสมุทร 2 เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และห้ามบุคคลหรือหน่วยงานผู้ประกอบการร้านค้าเข้าไปใช้ประโยชน์โดยเด็ดขาดแล้ว

อย่างไรก็ตามบริเวณดังกล่าวจังหวัดสมุทรสงครามได้ของบประมาณสร้างเขื่อนกั้นน้ำท่วมไปตั้งแต่ปี 2561 ได้รับการอนุมัติงบประมาณปี 2563 วงเงิน 40 ล้านบาทแล้ว ซึ่งจะสร้างความมั่นคงปลอดภัยและป้องกันตลิ่งกัดเซาะ ป้องกันน้ำท่วม และมีการรื้อศาลาทั้ง 2 หลังดังกล่าว และปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม เชื่อมโยงตลาดร่มหุบกับวัดเพชรสมุทรวรวิหาร แต่มาเกิดเหตุนี้เสียก่อน

ส่วนพื้นที่ในจังหวัดสมุทรสงคราม ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีนโยบายให้ท้องถิ่นท้องที่ตรวจสอบบริเวณที่มีความเสี่ยง หากหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือขอให้แจ้งได้ที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสงคราม จะจัดวิศวกรไปช่วยสนับสนุน

ขอบคุณ : มติชน