เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พร้อมด้วย นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ลงพื้นที่บริเวณอ่าวดุหยง แหล่งอนุบาลมาเรียม พะยูนน้อยวัย 7 เดือน ที่พลัดหลงแม่ แล้วถูกนำมาอนุบาลในระบบเปิดในธรรมชาติที่เกาะลิบง จ.ตรัง โดยอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้สัมภาษณ์ถึงแผนดูแลมาเรียม รับมรสุมใหญ่ว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง หาพื้นที่สำรอง เพื่อจะย้ายมาเรียม ไปอนุบาลในพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า ทั้งพะยูนน้อย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยจะต้องถามความคิดเห็นชุมชนว่า เห็นด้วยหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาในช่วงที่เกิดคลื่นลมแรง เจ้าหน้าที่ค่อนข้างจะหาตัว มาเรียม ได้ยาก จึงวิตกกังวลหากเกิดมรสุมรุนแรงขึ้น พะยูนน้อยจะไม่ปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขบวนการล่าพะยูนมีอยู่จริงหรือไม่ เพราะมีการตัดเขี้ยวพะยูนไปแล้ว 2 ตัว ที่ จ.ตรัง และ จ.กระบี่ อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า สมัยก่อนอาจจะมี แต่ปัจจุบันมีน้อย หรือถ้ามีก็เป็นการลักลอบ หรือไม่ก็ติดเครื่องมือประมงชายฝั่ง หรือเกี่ยวกับเครื่องมือที่เป็นอันตราย ขณะนี้ได้มีการพูดคุยประสานกับกรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งจังหวัด เพื่อบูรณาการร่วมกัน ทั้งการจำกัดขนาดเครื่องมืออุปกรณ์ทำประมงที่ไม่ให้เป็นอันตรายกับพะยูน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ส่วนเรื่องการตายของพะยูนทั้ง จ.ตรัง และ จ.กระบี่ ที่มีการตัดเขี้ยวพะยูนทั้ง 2 ตัวไปนั้น ในการผ่าซากพิสูจน์ทั้ง 2 ตัว ทีมสัตวแพทย์ระบุได้หรือไม่ว่า พะยูนตายแบบไหนอย่างไร อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังรอผลพิสูจน์ เช่นเดียวกับลูกพะยูนน้อยวัย 6 เดือน ที่พบตายที่แหลมจูโหย ต.เกาะลิบง เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ผลการผ่าพิสูจน์ ก็ยังไม่ออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานฯ มีชุดเหยี่ยวดง ซึ่งเป็นชุดเฉพาะกิจการข่าว และปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่า ตนได้สั่งให้ลงพื้นที่หาข่าวสืบสวนในทางลับเพื่อให้เกิดความกระจ่างในเรื่องนี้ด้วยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้