เมื่อเวลา 02.00 น. 5 กันยายน 2563 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. และ พ.ต.อ.อภิชาต โพธิจันทร์ ผกก.4 บก.ทล. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด  กวดขันวินัยการจราจรและการลักลอบขนยาเสพติดตลอดจนการค้าสิ่งของผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดในช่วงวันหยุดยาว  จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.5 กก.4 บก.ทล สกลนคร  ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน  โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเทียน บบ 9159 บุรีรัมย์ ผ่านเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ พ.ต.ต.ไพโรจน์ ทรัพย์ประเสริฐ  สว.ส.ทล. 5 กก.4 บก.ท.ล จึงได้สั่งนำกำลังตำรวจทางหลวงในสังกัด ตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณหลัก กม.ที่ 0-1 ทางหลวงหมาย เลข 241 (ถนนมัธยมจันทร์) ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ด้านหน้าสถานีตำรวจทางหลวงที่ 5 กองกำกับการ 4ต่อมา ตรวจสอบพบรถเป้าหมายขับผ่านมา จึงได้ทำการเรียกตรวจสอบรถคันดังกล่าว

ทราบชื่อคนขับ นายคงศักดิ์  จิตระวัง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 15 ต.คุ้มเก่า อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ อ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.แห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจบัตรข้าราชการตำรวจแต่อ้างว่าไม่ได้พกติดตัวมา ต่อมาจึงทำการตรวจค้นรถ ทำให้พบยาเสพติดซุกซ่อนในกระสอบถุงปุ๋ย อยู่ภายในท้ายรถกระบะมีผ้าใบพลาสติกปกคลุมพบยาไอซ์ จำนวน 75 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 75 กก.แพ็ค บรรจุห่อกันความชื้นอย่างดีสีทองมีภาพเครื่องดื่มใบชาแห้ง ประทับตรา888 และภาษาจีน /ภาษาอังกฤษ GUANYINWANNG และตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด กัญชาอัดแท่ง จำนวน 16 แท่ง น้ำหนักรวม 16 กิโลกรัม โดยหากยาไอซ์ทั้งหมดถูกส่งถึงที่หมายคือกรุงเทพฯ จะมีมูลค่าสูงถึง 112 ล้านบาท การจับกุมครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการจับกุมยาไอซ์ล็อตใหญ่ที่สุดในภาคอีสานตอนบน แนวชายแดนแม่น้ำโขง เนื่องจากยังไม่ปรากฏว่าสามารถจับกุมได้ล็อตใหญ่ขนาดนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสกลนคร จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง มาทำการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป ที่สถานีตำรวจทางหลวง 5 กก.4 สกลนคร

จากการสอบสวนนายคงศักดิ์  จิตระวัง (ผู้ต้องหา)ให้การสารภาพว่า เดิมเป็นคนขับรถบัสโดยสาร 999 กรุงเทพ-หนองคาย ต่อมาได้รับการว่าจ้างจากนายโรจน์ ชาว สปป.ลาว โดยจะติดต่อผ่านทางไลน์ ให้เดินทางมารับยาเสพติด บริเวณป่าละเมาะห่างจากพื้นที่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ประมาณ 10 กม.ให้ไปส่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีผู้มารับยาเสพติดต่ออีกทอดหนึ่ง โดยได้รับค่าจ้างในการขนยาเสพติดครั้งนี้จำนวน 200,000 บาท และรับว่าเคยลักลอบขนยาเสพติดกัญชาจำนวน 50 กิโลกรัม มาแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาได้รับค่าจ้าง 50,000 บาท โดย ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ (แอมเฟตามีน) ยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองเพื่อนจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชา ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการต่อไป