ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธ์กุล ประมง จ.ตรัง ได้ออกหนังสือขอความร่วมมือให้ชาวประมง หรือผู้ทำการประมงในพื้นที่ ให้ความระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางสัญจรการเดินเรือในบริเวณสถานที่พักฟื้นอนุบาลมาเรียม พะยูนน้อยที่พลัดหลงกับแม่วัย 7 เดือน บริเวณใกล้เขาบาตูปูเต๊ะ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง  เนื่องจากมาเรียม จะมีนิสัยคุ้นเคยกับเรือและคน เกรงจะไม่ปลอดภัยทั้งจากการถูกใบพัดเรือ และขบวนการลักพะยูน  พร้อมให้หน่วยงานของรัฐ เอกชน และมูลนิธิ รวมทั้งอำเภอต่างๆ ช่วยประชาสัมพันธ์คุ้มครองถิ่นที่อยู่อาศัย หรือปกป้องบ้านของพะยูนให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่างๆ  ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์เป็นหลัก เช่น เครื่องมือประมง หรือเส้นทางการสัญจรทางเรือ  นอกจากนั้นพื้นที่บริเวณโดยรอบเกาะลิบง รวมทั้งบริเวณเกาะมุก และเกาะเม็ง ยังมีพะยูนอาศัยหากินบริเวณแหล่งหญ้าทะเลจำนวนมาก และในช่วงน้ำทะเลลง พะยูนก็มักจะไปหาศัยอยู่บริเวณร่องน้ำลึก  จึงขอให้เรือประมงทุกชนิด รวมทั้งเรือท่องเที่ยวใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายกับพะยูนได้
 

        ขณะที่บริเวณอ่าวดุหยง ซึ่งเป็นพื้นที่อนุบาลมาเรียม พบว่า ทีมสัตวแพทย์ทั้งจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ยังคงหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันทำงาน พร้อมเร่งเพิ่มปริมาณนมและหญ้าทะเลให้แก่มาเรียม อย่างต่อเนื่อง  โดยให้กินนมเฉลี่ยวันละประมาณ 2,300-3,500 มิลลิลิตร และให้กินหญ้าทะเล เฉลี่ยวันละประมาณ 100-300 กรัม  พร้อมทั้งยังเน้นพามาเรียม ว่ายน้ำไปกับแม่ส้ม เพื่อกินหญ้าทะเลในแปลงหญ้าทะเลในธรรมชาติอีกด้วย เพื่อฝึกให้พะยูนน้อยหากินเองในธรรมชาติ มีสุขภาพดีและเติบโตแข็งแรง  โดยมีเป้าหมายจะต้องให้มาเรียม มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 60-70 กิโลกรัม  ขณะที่ความยาวของพะยูนน้อย ล่าสุดอยู่ที่ 120 เซนติเมตร และมีรอบอก 72 เซนติเมตรแล้ว