ผู้แทนคณะสงฆ์นครสวรรค์ ร้องขอความเป็นธรรม สอบตำรวจ สภ.นางรอง
29 ส.ค. 2563, 19:38
วันที่ 29 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า คุณเจริญภร อันประนิตย์ ฐานะผู้รับมอบอำนาจและผู้ประสานงานของคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางยื่นหนังสือต่อนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้คณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ โดยขอให้คณะกรรมาธิการฯ ช่วยติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากพนักงานสอบสวนอ้างว่าคดีขาดอายุความ
ขณะนี้ได้ดำเนินการยื่นหนังสือให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งในส่วนของรัฐสภา และสำนักนายกรัฐมนตรีทำเนียบรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือคณะสงฆ์นครสวรรค์ เพราะที่ผ่านมาคณะสงฆ์นครสวรรค์ ไม่เคยออกมาเรียกร้อง แต่ถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรมมาโดยตลอด
คุณเจริญภร กล่าวว่า สืบเนื่องจากผลคำพิพากษาของศาลฏีกา ในคดีอาญาที่ 7825/2559 ระหว่างพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นางขนิษฐา รัตนพัฒนากุล จำเลยที่ 1 กับพวก และคดีแพ่งที่ 8326/2560 ระหว่างพระเทพปริยัติเมธี เป็นโจทก์ฟ้อง นายพฤฒิ รัตนพัฒนากุล เป็นจำเลยกับพวก ซึ่งตอนนี้หลบหนีหมายจับอยู่ โดยผู้ประสานงานคณะสงฆ์ฯ อ้างว่า ตำรวจ สภ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ มีพฤติการณ์ช่วยเหลือผู้ที่ถูกออกหมายจับ
สำหรับคดีดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมใช้เวลาสืบพยานนานหลายปี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2559 ศาลฎีกา ติดสินให้วัดนครสวรรค์ชนะคดี มีคำพิพากษาให้นางขนิษฐา จำคุก 26 ปี และให้คืนเงินกับคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ 4 ล้านบาท ปัจจุบันนางขนิษฐา ได้หลบหนีโทษ ซึ่งศาลได้ออกหมายจับเพื่อให้มารับโทษ
ต่อมาคณะสงฆ์ฯ ได้ฟ้องคดีแพ่ง จนในที่สุดศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้นายพฤติ และนางขนิษฐา ใช้เงินคืนให้กับคณะสงฆ์ฯ จำนวน 55 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต่อปี นับจากปี 2555 ซึ่งปัจจุบันรวมเป็นกว่า 70 ล้านบาท
ทั้งนี้ศาลได้มีคำสั่งกรมบังคับให้ยึดทรัพย์สินของนายพฤติ และนางขนิษฐา ดำเนินการขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ให้กับคณะสงฆ์ฯ ตามคำพิพากษา ปรากฏว่าขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด นำมาสู่การร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว