ปศุสัตว์ฯ ฝึกใส่ขาเทียมให้ “ชายพุทธ-ม้าพระเจ้าตากฯ” หลังโดน จยย.เฉี่ยวชนเสียขาหลัง 1 ข้าง
20 ส.ค. 2563, 13:16
วันที่ 20 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ศรัทธาญาติโยมที่เดินทางไปทำบุญ-กราบสักการะมณฑปพระเจ้าตากสินมหาราช ภายใน “วัดแจ้ง ต.อุทัยเก่า อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี” ต่างต้องแวะเวียนไปเยี่ยมชม และร่วมลุ้นให้กำลังใจ “ชายพุทธ-ม้าขาเหล็ก หรือม้าพระเจ้าตาก” ม้าเพศผู้ 3 ขา อายุ 1 ปี ให้กลับมาใช้ชีวิต 4 ขาได้เหมือนม้าทั่วไปอีกครั้ง หลังจากประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนจนเสียขาหลังไป 1 ข้าง
นายสรายุทธ วันสูตร ปศุสัตว์อำเภอหนองฉาง และเจ้าหน้าที่ก็ยังคงให้การดูแลรักษา “ชายพุทธ-ม้า 3 ขา” อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกำลังฝึกให้ชายพุทธคุ้นชินกับการใส่ขาเทียมทุกวัน เพื่อให้ม้าปรับสภาพในการใช้ขาเทียมนี้ในระยะแรก เนื่องจากชายพุทธไม่ยอมใส่ขาเทียมที่นำมาใส่ให้ และพยายามสะบัดจนขาเทียมหลุดกระเด็นทุกครั้ง จึงต้องทำการเก็บผลทดลองว่าควรปรับตัวขาเทียมให้เหมาะสมและเข้ากับช่วงขาม้าให้มากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันชายพุทธยังไม่ได้ใส่ขาเทียม แต่ก็ยังคงสามารถเดิน-วิ่งได้เหมือนกับม้าปกติ เนื่องจากเป็นม้าที่อายุน้อยทำให้ปรับการใช้ชีวิตได้ดี แต่หากการทดลองทำขาเทียมนี้สำเร็จได้จริงก็อาจจะสามารถเป็นต้นแบบใช้ในการช่วยสัตว์พิการให้สามารถกลับมาเดินได้ดีอีกครั้งด้วย
ทั้งนี้ “วัดแจ้ง” เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองอุทัยธานีมานานหลายร้อยปี สร้างตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี ต่อมาในสมัยอยุธยาเป็นราชธานี ปี พ.ศ. 2309 พระยาวชิรปราการ (หรือพระเจ้าตาก) ได้ยกกองทัพม้าจากกำแพงเพชรเพื่อไปช่วยป้องกันกรุงศรีอยุธยา พอเดินทางมาถึงวัดแจ้ง ได้ถูกกองทัพพม่าเข้าโจมตี และได้รับชัยชนะรบกับพม่าในครั้งนั้น แต่ได้เสียม้าศึกไป 2 ตัว
ขณะที่ชาวบ้านยังคงรำลึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงมีการจัดสร้างมณฑปพระเจ้าตากฯ ไว้ที่วัดเพื่อให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระองค์ท่าน และมีการนำม้ามาถวายให้รวม 3 ตัว จนเป็นที่รักใคร่ของศรัทธาชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาทำบุญกันมาก เพราะเชื่อง เลี้ยงง่าย และเข้ากับคนได้ดี อีกทั้งยังสามารถขี่หลังพาเดินเที่ยวเล่นได้อีกด้วย
โดยพี่ใหญ่ตัวแรกคือม้าเพศผู้ สีน้ำตาล อายุ 4 ปี ชื่อว่า “จักรี” พี่รองคือม้าเพศเมีย สีเทา อายุ 2 ปี มีชื่อว่า “แตงไทย” ส่วนน้องเล็กตัวสุดท้าย คือ “ชายพุทธ” ที่เป็นม้าเพศผู้สีขาว อายุ 1 ปี มีเพียง 3 ขา เนื่องจากประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนตั้งแต่อายุ 3 เดือน จนทำให้เสียขาหลังไปหนึ่งข้าง จึงกลายเป็นเจ้าของฉายาว่า ม้าขาเหล็ก แห่งเมืองอุทัยเก่าดังกล่าว