กรณีข่าวสุดแสนรันทด ที่เด็กหญิง เกวลินหรือน้องญาญ่า สำรี อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป 4 โรงเรียนบ้านห้วยไม้ซอด ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ได้ขออนุญาตคุณครูนำเด็กหญิงการ์ตูนน้องสาววัย 2 ขวบ ซึ่งเดินไม่ได้พูดยังไม่เป็นไปเลี้ยงในห้องเรียนด้วย เนื่องจากที่บ้านไม่มีใครดูแล เพราะพ่อติดคุกที่เรือนจำบึงกาฬ ส่วนแม่เป็นคนต่างด้าวหลังคลอดน้องสาวได้ไม่นานก็ทิ้งน้องหนีข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน  ส่วนบ้านพักได้อาศัยอยู่กับย่า 3 คน แต่ฐานะทางบ้านยากจน นางคำ สำรี อายุ 60 ปีผู้เป็นย่าจึงต้องออกจากบ้านไปเก็บผักเก็บหอยตามทุ่งนาและหนองน้ำ มาขายเพื่อจุนเจือเลี้ยงทั้ง 2 คน ส่วนค่าใช้จ่ายในการเหมารถมาโรงเรียน นางมีนา สำรี อายุ 35 ปีอาผู้หญิงเป็นคนช่วยเหลือออกค่าใช้จ่ายให้รวมทั้งอาหารการกินบางมื้อ ต่อมา น.ส.ศิริอร เหลาคำ หรือครูก้อย เป็นครูสอนภาษาจีนเห็นสภาพของน้องทั้ง 2 คนเกิดความสงสาร จึงได้ประสานผู้สื่อข่าวไปทำข่าว เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือทั้งค่าเล่าเรียนและซ่อมแซมบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จให้อาศัยอยู่อย่างปลอดภัย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

 

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันนี้ 15 ส.ค.นายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้สั่งการให้ นางธัญนันท์ จันทร์สวาสดิ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ นำคณะลงพื้นที่บ้านเลขที่ 101หมู่ 4 บ้านโนนชัยศรี ต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บึงกาฬประเมินหาทางช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ญ.เกวลิน สำรี นักเรียนชั้น ป.4 เป็นรอบที่ 2 ซึ่ง นางธัญนันท์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้ประสานงานทีมสหวิชาชีพเพื่อร่วมกันหารือแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ โดยยึดประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ เพื่อซ่อมแซมบ้านของน้องญาญ่าให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะประตูหน้าต่างและฝาบ้านที่ยังไม่เรียบร้อย อาจจะทำให้ไม่ปลอดภัยในร่างกายและทรัพย์สิน โดยนัดกันประชุมที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลโนนศิลา อ.ปากคาด ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ โดยจะเชิญส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ตลอดทั้งครู โรงเรียนบ้านห้วยไม้ซอด ทั้งนางคำ สำรี ผู้เป็นย่าและนางมีนา สำรี ที่เป็นอาไปร่วมประชุมด้วย