นักประดาน้ำชาวต่างชาติ พร้อมหน่วยซีล หน่วยกู้ย ได้ดำน้ำลงใต้ทะเล จุดที่เรือเฟอร์รี่จมก้นทะเล ล่าสุดสามารถกู้ร่างพนักงานหญิง ที่เสียชีวิตติดอยู่ในห้องน้ำบนเรือขึ้นมาจากทะเลได้แล้ว ขณะที่สามีผู้ตายได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกหน่วยงาน ที่ได้พยายามถึง 6 วันสามารถนำร่างของภรรยาสาวขึ้นมาได้ พร้อมจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางน้ำจืดในอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และขอให้ทางบริษัทต้นสังกัดออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ 

 

 

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 7 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาวาโทรัฐพล ขะตะเจริญ หัวหน้าสถานีเรือสมุย ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 ได้นำเรือตรวจการณ์ เรือ ต.237 ทัพเรือภาค 2 พร้อมกำลัง  เจ้าหน้าที่ทหารเรือ และหน่วยกู้ยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย ได้นำเรือออกจากกองบังคับการสถานีเรือสมุย ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาค 2 นำเรือ ออกไปยังจุดที่เรือจม บริเวณเกาะสี่ เกาะห้า พร้อมนำเรือเทียบกับเรือหลวง ราวี  ทัพเรือภาค 2  ที่บนเรือเป็นกองอำนวยการค้นหา ที่ลอยลำอยู่ในทะเล โดยมีนานธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย พร้อมนักประดาน้ำชาวต่างชาติ และหน่วยซีล จากทัพเรือภาค 2 และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาจังหวัดสุราษฎร์ธานี หน่วยกู้ภัยวีอาร์วัดปลายหลม ดำน้ำนำเครื่องตัดถ่างลงไป เพื่อทำการตัดประตูเรือ ที่จมอยูใต้ทะเล

พร้อมนำร่างของ นางนภัรดา จันหาญ อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา จังหวัดมหาสารคาม (พนักงานจำหน่ายสินค้าบนเรือ ) ออกมาจากห้องน้ำได้เป็นผลสำเร็จ และใช้ผ้ายางสีดำ มัดศพขึ้นมา และใส่เรือเจ้ทสกี นำศพมาทำการตรวจสอบ บนเรือหลวงราวี จากนั้นได้ถ่ายศพ นำมาขึ้นเรือหลวง ต.237 ทัพเรือภาคที่ 2 โดยมีนายปัญญา สุกชนะสงคราม อายุ 43 ปี สีมีผู้ตาย ได้เข้าไปดูศพด้วยความเสียใจ ก่อนที่จะทำการนำผ้าแดงผ้าขาว พร้อมดอกไม้จุดธุปเทียน ทำพิธี เพื่อขอแม่ย่านางบนเรือหลวง ต.237 ให้นำศพกลับเข้ามายังฝั่งอำเภอเกาะสมุย ให้ได้อย่างปลอดภัย