เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมนักประดาน้ำชาวต่างชาติ จากครูสอนดำน้ำจากเกาะเต่า และเจ้าหน้าที่หน่วยซีลกองทัพเรือภาค 2 และนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยต่างๆได้ดำน้ำลงไปบริเวณตัวเรือเฟอร์รี่ ราชา 4 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่จำกัดมหาชน ที่รับจ้างเหมาบรรทุกขยะ และเดิดอุบัติเหตุถูกคลื่นซัดจมลงบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา 

 

 

 

โดยในวันนี้ (6ส.ค.) นักประดาน้ำได้ดำดิ่งลงไปภายในตัวเรือเฟอร์รี่ ที่จมอยู่ก้นทะเล ระดับน้ำความลึก 20 เมตร จากการค้นหาภายในห้องโดยสาร ไม่พบร่างผู้สูญหายติดอยู่ภายใน ซึ่งนักประดาน้ำได้ใช้เชือกไต่เข้าไปยังภายในห้องน้ำ ปรากฎพบร่างผู้หญิง 1 ราย ติดอยู่ภายในห้องน้ำ แต่ไม่สามารถกู้ร่างออกมาได้ เนื่องจากสภาพศพ ขึ้นอืดไม่สามารถนำผ่านออกมาจากประตูห้องน้ำได้ และห้องน้ำเป็นประตูเหล็ก ทางนักประดาน้ำจึงได้ขึ้นมารายงานสถานการณ์ ให้กับ พลเรือตรี นพรัตน์ ล้ำเลิศ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2 ที่ สั่งการณ์ และอำนวยความสะดวกนักประดาน้ำ บนเรือหลวงราวี ทัพเรือภาคที่ 2 ที่ลอยลำในจุดที่เกิดเหตุ 

ซึ่ง  พลเรือตรี นพรัตน์ ล้ำเลิศ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2  ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้ได้ปฎิบัติภารกิจร่วมกันกับหลายหน่วยงาน ที่หน่วนซีลจากทัพเรือภาค 2 และนักประดาน้ำจากชาวต่างชาติ และยังมีตำรวจน้ำ ฝ่ายปกครอง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุรษฎร์ธานี หน่วยกู้ภัยวีอาร์วัดปลายแหลม หน่วยกู้ภัยเกาะเต่า หน่วยกู้ชีพกู้ภัยเทศบาลนครเกาะสมุย หน่วยกู้ภัยเกาะสมุย เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเกาะสมุย หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อำเภอเกาะสมุย  ได้ร่วมกันปฎิการค้นหาภายในเรือ เฟอร์รี่ที่จม โดยล่าสุดได้รับการรายงานและยืนยันว่า ทีมค้นหาได้ดำน้ำลงไปถึงตัวเรือในห้องโดยสารและภายในห้องน้ำ พบร่างผู้หญิง 1 ราย แต่ไม่สามารถกู้ร่างออกมาได้ เนื่องจากผู้หญิงตัวใหญ่มาก และบานประตูบานเล็ก และเป็นบานประตูแบบเหล็ก จึงเป็นอุปสรรค ในการนำร่างผู้หญิงออกมา ขณะเดียวกันก็ต้องยุติการค้าหาเนื่องจากสภาพอากาศและทัศนวิสัยไม่ดี ทัศนวิสัยมองเห็นได้ในระยะ 1 เมตร ดังนั้งต้องยุติการค้าหาเป็นการช่วยคราวและจะประเมินสถานการณ์ อีกครั้ง และยืนยันว่าวันนี้พบศพเพียงรายเดียวเท่านั้น อีก 2 รายยังไม่พบ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2 กล่าว