สาวไทยเจอลูกที่คลอดในมาเลย์แล้ว หลังพลัดพรากจากกัน 5 เดือน เหตุล็อกดาวน์โควิด
6 ส.ค. 2563, 14:08
เมื่อวันที่ 6 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เผยถึงกรณีการให้ความช่วยเหลือ นางสาวนูรฮาลีซา เจะอาแว อายุ 18 ปี ชาวอำเภอกะพ้อ จ.ปัตตานี ลูกจ้างร้านอาหารต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย ได้คลอดลูก ณ โรงพยาบาล Kajang รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ได้ให้ความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจะสามารถนำบุตรกลับประเทศไทยได้ในวันนี้ ทั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือจากคนไทยด้วยกัน โดยไม่คำนึงว่าเป็นคนศาสนาใด ขอเป็นคนไทยเราก็พร้อมช่วยเหลือ
สำหรับ นางสาวนูรฮาลีซา ก่อนหน้านี้เมื่อ 5 เดือนก่อน ได้คลอดลูกก่อนกำหนด ทำให้บุตรมีน้ำหนักตัวเพียง 1.1 กก. ส่งผลให้เด็กต้องเข้าตู้อบ นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จากนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา นางสาวนูรฮาลีซา เจะอาแว ได้เดินทางกลับประเทศไทย เพื่อดำเนินการต่อวีซ่า ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา หลังจากนั้นไม่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศมาเลเซียได้ เนื่องจากการประกาศปิดประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาด ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา ทำให้นางสาวนูรฮาลีซา ต้องเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดปัตตานี และไม่ได้พบลูกเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว จึงขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าด่านสะเดา รถของโรงพยาบาลจากประเทศมาเลเซีย เดินทางมาจอดที่หน้าด่านสะเดา พร้อมด้วยพยาบาลและเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันรถพยาบาลของโรงพยาบาลปัตตานีเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด่านสะเดาอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและหนังสือเดินทาง พร้อมมีการเซ็นเอกสารรับบุตร หลังจากนั้นวินาทีที่แม่และลูกน้อยได้เจอหน้ากันเป็นวินาทีแห่งการรอคอย น.ส.นูรฮาลีชา ได้โผเข้ามารับลูกจากพยาบาล เธอบอกว่ามีความสุขมาก ดีใจที่ได้เจอหน้าลูกหลังจากคลอด ทุกวันอยากเห็นหน้าลูก