จากคดีที่พบโครงกระดูกมนุษย์ในซากรถเก๋งที่เกิดเพลิงไหม้ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 112 ม.2 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเปิดเป็นอู่รับทำเบาะรถยนต์   โดยโครงกระดูกที่พบนั้นอยู่ในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซีตรอง สีแดง หมายเลขทะเบียน กม 6094 ราชบุรี  บริเวณที่นั่งคนขับ และรถยนต์เก๋งเก่าญี่ปุ่น ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ลักษณะคล้ายชนท้ายกัน สภาพรถมีร่องรอยถูกไฟไหม้เสียหายทั้ง 2 คัน ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าโครงกระดูกที่พบนั้นน่าจะเป็นของนายธิตินันท์   ภู่สุวรรณ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ ดังกล่าว เนื่องจากนายธิตินันท์  นั้นได้หายตัวไป และสาเหตุก็น่าจะมาจากเรื่องแก๊สที่ติดตั้งในรถยนต์เกิดขัดข้องจนทำให้เกิดไฟลุกไหม้คลอกนายธิตินันท์จนตาย  โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 ก.ค.63 ที่ผ่านมา  แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นพบพิรุธในจุดเกิดเหตุหลายอย่าง  จึงต้องทำการสืบสวนสอบสวนเชิงลึก  จนทำให้ทราบว่า โครงกระดูกที่ถูกไฟเผาในรถนั้นไมใช่นายธิตินันท์  แต่เป็นคนอื่นที่ถูกนายธิตินันท์ฆ่าแล้วนำศพมาเผาอำพราง

ซึ่งล่าสุดในวันนี้( 1 ส.ค.63) พล.ต.ต.อนุภาพ   ศรีนวล  ผบก.ภ.จ.ราชบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนู  ฮวบประเสริฐ  รองผบก.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง  ภาณุทัต  ผกก.สส.ภ.จ.ราชบุรี และ พ.ต.อ.ไวโรจน์  แน่นพิมาย  ผกก.สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี  ได้นำตัวนายธิตินันท์  มาสอบปากคำหลังหลบหนีไปอยู่ที่อำเภอบ้านคา  จ.ราชบุรี  ซึ่ง พล.ต.ต.อนุภาพ  ก็บอกว่าเหตุนี้ในเบื้องต้นนั้นคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ  แต่จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุนั้นพบว่ามีหลักฐานหลายอย่างที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ  เบื้องต้นพบว่าถังแก๊สรถยนต์ยังไม่ได้มีการต่อสายเข้าระบบรถยนต์  รถจักรยานยนต์ที่นายธิตินันท์ใช้อยู่เป็นประจำก็หายไป  ในพื้นที่สภ.จอมบึง ใกล้กับจุดเกิดเหตุ มีการแจ้งคนหายไว้ซึ่งไม่ใช่นายธิตินันท์  เมื่อตรวจสอบประวัตินายธินินันท์  ก็พบว่าถูกจับในข้อพยายามฆ่าเมื่อปี พ.ศ.2562 และคดีได้ถูกส่งฟ้องไปแล้วแต่ช่วงที่อยู่ในคุกนั้นนายธิตินันท์ พยายามจะฆ่าตัวตายญาติจึงได้ซื้อหลักทรัพย์ประกันตัวออกมา  โดยศาลจะมีการตัดสินในวันที่ 18 สิงหาคม นี้  ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ ทั้งผลดีเอ็นเอ  การพิสูจน์อัตตลักษณ์บุคคล และใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์มาช่วยตรวจสอบ  จนพบว่าศพในรถที่ถูกเผานั้นคือนายเปลี่ยน   สีชมพู  อายุ 54 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 13  หมู่ 10  ต.จอมบึง  อ.จอมบึง จ.ราชบุรี  ซึ่งเป็นชายเร่ร่อนที่เดินเก็บขยะขายในบริเวณดังกล่าว