วันที่ 28 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า  พ.ต.ท.ภูวมินทร์ อินนอก สารวัตรเวรพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจาก นายไพบูลย์ เกตุครื้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านโคกใหญ่ ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง ได้มีเหตุน้าชายใช้มีดพร้าฟันคอหลานชายเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 174 บ้านโคกใหญ่ จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดิ์ดาวัชรานนท์ ผกก.ทราบ และสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง ออกทำการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมประสานไปยัง แพทย์หญิงไทยอักษร รักษาภักดี แพทย์เวร รพ.น้ำพอง มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพองจุดทรายมูล ไปยังที่เกิดเหตุ

 

จุดเกิดเหตุบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ใกล้กับ รพ.สต.บ้านโคกใหญ่ บริเวณลานหลังบ้านเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงไก่ชนจำนวน 8 ตัว ถูกขังอยู่ภายในสุ่มไก่ ใกล้กันนั้นมีร้องรอยของการนำขมิ้นชัน มีขูดกับสังกะสีเจาะรูเพื่อนำไปใช้ในการทาตัวไก่ชน ใกล้กันนั้นพบศพผู้ตาย ทราบชื่อนายเทพพิทักษ์ วงษ์รินยอง อายุ 28 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาวสีเทา ถูกของมีคมที่ท้ายทอยด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

สอบถามนางรำไพ วงษ์รินยอง อายุ 45 ปี มารดาของผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ผู้ก่อเหตุเป็นน้าชายโดยก่อนหน้านั้นประมาณ 3-4 วันได้มีเหตุทะเลาะกันระหว่างหน้ากับหลาน เนื่องจากหลานชายคือน้องเจ จับได้ว่าน้าวุฒิได้เข้ามาลักข้าวสารภายในบ้านไปขายหลายครั้ง จึงเข้าไปตักเตือน ก่อนที่น้าชายจะถูกหลานชักต่อย เนื่องจากเตือนไม่ฟัง ทำให้น้าสู้ไม่ได้ พร้อมกับได้กล่าวคำอาฆาตว่าจะตามมาฟันให้ตาย ให้ระวังตัวให้ดี โดยก่อนเกิดเหตุลูกชายกำลังให้น้ำไก่ชน เพื่อที่จะทำการฝึกซ้อมไก่ภายสังเวียนที่อยู่หลังบ้าน โดยไม่ทันระวังตัว นายวุฒิได้เข้ามาด้านหลังจากนั้นก็ฟันเข้าที่ท้ายทอยด้วยมีดพร้าที่ใช้ในการตัดอ้อย ก่อนที่จะหลบไปทางด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้าน

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมชุดปกครองของหมู่บ้านโคกใหญ่ได้ทำการติดตามตัวนายวุฒิชัย ผู้ก่อเหตุ จนสามารถควบคุมตัวไว้ได้ โดยพบร่องรอยของการเผาถุงย่ามที่ทำจากถุงปุ๋ยทางท้ายหมู่บ้าน แต่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ ไม่ยอมบอกที่ซ่อนมีดของกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบเค้นอย่างหนัก

 

 

 

 

 

 

หลังจากการชันสูตรศพผู้ตายอย่างละเอียด ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงได้มอบศพให้ทางญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนตัวผู้ก่อเหตุได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป