คุมตัว ! "อดีต สจ.ปืนโหด" ทำแผนฆ่าญาติรุ่นน้อง คุกเข่าขอขมาต่อหน้าศพ แต่กลับยังไม่สำนึกผิด
24 ก.ค. 2563, 15:28
วันนี้ (24 ก.ค.63) ณ บ้านเลขที่ 77/1 หมู่ 3 บ้านนาแอง ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้คุมตัวนายทัศนัย อ่อนคำ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 3 บ้านนาแอง ต.นิคมสงเคราะห์ จ.อุดรธานี อดีตสมาชิกสภาจังหวัดอุดรธานี ปี 2551-2555 ทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังก่อเหตุฆ่านายปริวรรต แก้วมุงคุณ อายุ 29 ปี โดยตำรวจได้ตั้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” โดยขณะคุมตัวไปทำแผนมีการรักษาความของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านจำนวนมาก ซึ่งระหว่างทำแผนผู้ต้องหามีสีหน้าที่เรียบเฉยเหมือนไม่สำนึกในการกระทำของตัวเอง
โดยจุดแรก เจ้าหน้าที่ได้คุยตัวไปที่บ้านเลขที่ 102 เพื่อนำชี้จุดทะเลาะข่มขู่ท้ายทายกันระหว่างผู้ต้องหาและผู้ตาย และผู้ก่อเหตุเข้าไปเอาอาวุธปืนในบ้านเพื่อไปยิงนายปริวรรต จากนั้นเดินทางไปนำชี้จุดเกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 77/1 ซึ่งเป็นจุดที่นายทัศนัย ใช้อาวุธปืนยิงนายปริวรรต โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา หลังทำแผนแล้วเสร็จได้พาไปขอขมาแม่ผู้เสียชีวิต โดยแม่ขอผู้ตายได้กล่าวว่า “ไม่สงสารลูกตัวเองบ้างเหรอ ลูกยังเล็กๆ ฐานะหน้าที่ตัวเองก็ดี อารมณ์ชั่ววูบตัวเองเป็นอย่างไร มันตายตัวเองติดคุก ตัวเองทรมานกว่าคนตาย น้าเสียใจมากแต่ขอให้อภัย ขอโหสิกรรมให้ น้าจะไม่จองกรรมจองเวร คนที่ตายไปแล้วก็ตายไป คนทำก็ชดใช้กรรม น้ารักเอง แต่ทำไมไม่รักน้า ลูกน้าตายน้าเสียใจมาก ทำไม่ถึงยิงน้องได้”
จากนั้นได้พาผู้ต้องหาไปจุดธูปขอขมาต่อหน้าศพ โดยผู้ต้องหาพูดออกมาว่า “อย่าได้จองเวรจองกรรมกัน พี่ช่วยน้อง” ระหว่างนั้นแม่ผู้ตายเดินมานั่งลงได้ยินคำนี้เกิดการไม่พอใจ ถามกลับมาว่าช่วยเรื่องอะไร แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แม่จึงบอกว่าน้องมันก็ช่วยให้ติดคุก
ทางด้าน พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า สอบสวนประวัตินายทัศนัย ไม่เคยต้องโทษคดีอาญา แต่ทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าทั้งคู่มีปัญหาขัดผลประโยชน์การค้าขายสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้ผู้ต้องหาและผู้ตายนั้นมีความโกรธเคืองกันมาเป็นระยะเวลานาน ก่อนหน้าผู้ต้องหาจะตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิง มีการใช้อาวุธมีดข่มขู่ท้าทายกันไปมา จนกระทั่งผู้ต้องหาได้กลับบ้านไปเอาอาวุธปืนและมาที่บ้านของผู้ตาย ซึ่งผู้ตายก็ได้ท้าทาย ผู้ต้องจึงเกิดโมโห้และยิงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ในส่วนความขัดแย้งเรื่องยาเสพติดนั้นจะจริงหรือนั้นเจ้าหน้าที่เรายังไม่พบของกลาง เราจึงไม่สามารถกล่าวหาได้ว่าขัดผลประโยชน์ทางด้านยาเสพติด แต่เมื่อตรวจฉี่ก็พบว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาให้เพิ่มเติมอีก “ฝากถึงไปถึงประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีว่า จากกรณีเหตุยิงกัน 2 เหตุที่ผ่านมาในพื้นที่ สังเกตเห็นได้ว่าผู้ต้องหามีอาการเมา ไม่เมาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เมาสารเสพติด ซึ่งจุดนี้สังเกตได้ว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดต้องช่วยกัน หากพบเบาะแสก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฯ เราก็จะได้จัดการกลุ่มพวกนี้” พล.ต.ต.พิษณุกล่าวตอนท้าย หลังทำแผนเสร็จได้ควบคุมตัวอดีตสจ.ปืนโหดส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป