ลุงขี่จยย.กลับบ้าน เจอหนุ่มวัย35 คนบ้านเดียวกัน ซิ่งจยย.สวนทาง ชนกันเองเสียชีวิต
14 ก.ค. 2562, 10:44
เมื่อกลางดึกคืนนี้วันที่ 13 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.ณัฐพล ผิวผาด รองสารวัตรสอบสวน สภ.พนมทวน จ กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลดอนสระ อ.พนมทวนฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถ จยย.ชนกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ1 ราย เหตุเกิดบนถนนทางเข้าหมู่บ้านดอนสระ-หัวรัง ห่างจากปากทางเข้าวัดดอนสระไปแระมาณ 50 เมตร หมู่ 6 ต.พนมทวน อ.พนมทวนฯ
หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.เจ้าคุณไพบูลย์ อ.พนมทวน ร่วมกับมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ (ศาลเจ้าพ่อขุนรัตนาวุธ) ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย 1 ราย นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่กับพื้นถนนในสภาพกะโหลกศีรษะแตกเลือดไหลนองพื้น ห่างจากจุดที่พบศพไปประมาณ 5 เมตร พบรถ จยย.ล้มคว่ำในสภาพพัง้สียหายทั้ง 2 คัน คันแรกเป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 ซีซี.สีดำเทา หมายเลขทะเบียน กลต-299 กาญจนบุรี คันที่ 2 เป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 ซีซี.สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน ขจก-746 กาญจนบุรี จุดที่รถ จยย.ทั้ง 2 คันเฉี่ยวชนกัน อยู่ตรงจุดเส้นแบ่งเลนถนนพอดี
สอบสวนทราบว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือนายอรรถพล วงษ์ดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 6 ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้รีบนำตัวส่ง รพ.เจ้าคุณไพบูลย์ฯ เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากอาการสาหัส
ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื้อคือนายธรรมรงค์ สามม่วงบุญ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 6 ต.พนมทวน จ.กาญจนบุรี หลังแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพท่ามกลางบรรดาญาติๆ ของผู้เสียชีวิตที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดูเมื่อเห็นสภาพศพของนายธรรมรงค์ เสียชีวิตอยู่กลางถนน ถึงกลับส่งเสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำร่างผู้เสียชีวิตไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติไปติดต่อขอรับศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนา
เบื้องต้นจากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายธรรมรงค์ ผู้ตายซึ่งมีอาชีพทำงานรับจ้าง หลังเลิกงานได้ขับขี่รถ จยย.เดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้ขับขี่รถเพื่อจะเลี้ยวข้ามถนนเพื่อเข้าซอยปากทางเข้าบ้าน เป็นเวลาเดียวกันกับนายอรรถพล วงษ์ดี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันก็ขับขี่รถ จยย.เพื่อจะกลับบ้านเช่นกัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถทั้ง 2 คันจึงพุ่งชนกันอย่างจัง จนทำให้นายธรรมรงค์ เสียขีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนนายอรรถพล ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ฟันธงว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ ใครเป็นฝ่า ยถูก ใครเป็นฝ่ายผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่จากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากขับขี่รถด้วยความประมาท