สมาคมคืนรากแก้วฯ ขอยื้อชีวิตต้นยางป่าอายุร้อยปีขวางถนน ย้ายปลูกที่ใหม่
12 ก.ค. 2563, 10:16
เวลา 07.00 น.วันที่ 12 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายไพฑูรย์ โพธิพัฒน์ นายกสมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน , นายสมนึก ค้าผล รองนายกสมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน , พระครูสุธรรม วิริยาลังการ เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง ต.ตะเคียนทอง อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี ร่วมกันตรวจสอบต้นยางป่าริมถนนสาย 317 จันทบุรี สระแก้ว หมู่บ้านตามูล หมู่ 1 ต.ทรายขาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี พบว่ามีอายุกว่า 100 ปี สูงกว่า 60 เมตร ปรากฏเด่นชัดกระทั่งเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล ใกล้กันกับต้นยางป่า มีการขยายถนนในบรรยากาศเร่งรีบ จาก 2 เลนเป็นถนน 4 เลน เพื่อเชื่อมต่อจาก อ.สอยดาว ไปยัง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และ จ.สระแก้ว รวมทั้งมีเศษซากการตัดโค่นต้นไม้เพื่อการก่อสร้างถนน โดยต้นไม้ใหญ่ทุกคนในบริเวณดังกล่าวถูกโค่นไปทุกต้น เหลือเพียงต้นยางป่าเพียงต้นเดียว
ทั้งนี้คณะของสมาคมคืนรากแก้วสู่ดิน ใช้เวลาตรวจสอบต้นยางป่าอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นไปเตรียมการหาวิธีชะลอการตัดต้นไม้นี้ออกไป และทราบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตัดถนน ว่าจะมีการโค่นต้นยางป่าในวันที่ 16 ก.ค. 63 นี้
นายสมนึก เปิดเผยว่า ทุกวันนี้จะไปหาต้นสูงใหญ่แบบนี้ได้ที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน จ.จันทบุรี แทบจะหาต้นไม้สูงขนาดนี้ไม่ได้แล้ว ต้นยางป่าต้นนี้อยู่คู่กับ จ.จันทบุรี มานานนับร้อยปี คนในพื้นที่เห็นต้นไม้ต้นนี้มาตั้งแต่เกิด คนรุ่นปัจจุบันก็ยากจะได้เห็นต้นไม้ขนาดใหญ่อย่างนี้ ต้นยางป่าต้นนี้จึงเป็นเหมือนอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของ อ.สอยดาว ควรจะอนุรักษ์ไว้ สมาคมคืนรากแก้วสู่ดินจะขอยืดเวลาการตัดต้นยางป่าออกไปอีกไม่เกิน 2 เดือน เพื่อเคลื่อนย้ายไปปลูกที่วัดเขาสอยดาวเหนือ อ.สอยดาว หรือโรงเรียนบ้านตามูล อ.สอยดาว ซึ่งจะร่วมมือกับทุก ๆ ฝ่าย และไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้แต่อย่างใด ทางสมาคมคืนรากแก้วสู่ดินได้ติดต่อไปยังบริษัทหลายแห่ง ต่างเห็นด้วยและยินดีจะช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่าย พร้อมกับสนับสนุนรถแบคโฮ รถเทรลเลอร์ในการเคลื่อนย้ายต้นไม้ต้นนี้ สำคัญที่ว่าแขวงการทาง จ.จันทบุรี จะยืดเวลาให้หรือไม่เท่านั้น
ด้านพระครูสุธรรมวิริยาลังการ เปิดเผยว่า ไม่อยากจะใช้คำว่า “ขอบิณฑบาต” เกรงว่าจะเป็นหักน้ำใจญาติโยมเกินไป อยากใช้คำว่าให้ช่วยกันรักษาต้นยางป่า อยากให้อนุรักษ์ไว้ เพราะตามแนวทางพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในการแสวงหาโมกธรรม พระองค์ก็ใช้ป่าในการแสวงหาธรรม ต้นไม้จึงมีประโยชน์ อยากให้ช่วยกันคิดหาทางอนุรักษ์ จะใด้เป็นตัวอย่างให้พื้นที่อื่นที่พบปัญหาแบบเดียวกันกับที่ อ.สอยดาว ช่วยกันอนุรักษ์ต้นไม้กันต่อไป