เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 11 ก.ค.63 ชุดปฏิบัติการข่าวร้อย ตชด.146 ด่านสิงขร ได้รับแจ้งจะมีการลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในประเทศ โดยใช้ช่องทางธรรมชาติแนวเทือกเขาตะนาวศรี จึงได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ สภ.คลองวาฬ เจ้าหน้าที่อุทยาน เข้าจับกุมกลุ่มบุคคล จำนวน 6 คน ชาย 4 หญิง 2 คน พร้อมสัมภาระเดินเท้าข้ามแดนจากฝั่งเมียนมาร์ข้ามเทือกเขาตระนาวศรีมายังฝั่งไทย บริเวณช่องทางธรรมชาติ ช่องสิงขรฝั่งทิศใต้ หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบพบเป็นบุคคลชาวเมียนมาร์ ไม่มีเอกสารใดๆในการขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศ และไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย

 

 

 

เวลาไล่เลี่ยกันประมาณ 04.00 น. ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกได้ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้เพิ่มเติมที่บริเวณช่องทางธรรมชาติช่องสิงขร ฝั่งทิศเหนือ ใกล้อ่างเก็บน้ำเขาคันหอก อีก 18 คน เป็นชาย 9 หญิง 9 คน โดยมีเด็กชายรวมอยู่ด้วย 2 คน ที่ลงมาจากภูเขา โดยมีรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบอร์น ทะเบียน บธ 9428 ประจวบฯ และ รถยนต์โตโยต้า วีโก้ ตอนครึ่ง สีบอร์น ทะเบียน บน 3279 ประจวบฯ มาจอดรอรับ จึงจับกุมตัวคนไทยได้ 3 คนคือ นายจักรี สมพา อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 36/1 ม.5 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน นายเกียตริศักดิ์ หล้าแหล่ง อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 100/6 ม.6 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก และ น.ส.ศิรินันท์ เกษียรแก้ว อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 65/3 ม.6 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ

โดยชาวพม่ากลุ่มดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาจากเมืองเมาะลำไย และยอมเสียเงินให้กับนายหน้าคนไทยคนละ 8,500 บาท เพื่อจะไปทำงานที่ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมด ส่ง สภ.คลองวาฬ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต (หลบหนีเข้าเมือง) ส่วนคนไทยมีความผิดในข้อหา ร่วมกันให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย