จากกรณี รายการช่องส่องผี ได้ไปถ่ายทำรายการที่วัดศาลาลอย  อ. เมือง จ. นครราชสีมา มีช่วงหนึ่งที่  อ.เรนนี่ เผยหลังจากได้สื่อสารกับดวงจิต แม่บุญเหลือ และปลัดทองคำ สามีของคุณย่าโม โดยบอกว่า แม่บุญเหลือ แท้จริงแล้ว เป็นคนลาว และไม่ใช่ลูกบุญธรรมของย่าโม แต่อย่างใด แต่เป็นภรรยาอีกคนของปลัดทองคำ โดยแม่บุญเหลือ นับถือและให้เกียรติย่าโมเป็นเหมือนพี่สาว เพราะตนเป็นแค่ลูกสาวชาวบ้านธรรมดา  และบอกว่าปลัดทองคำเสียใจมากที่สูญเสียแม่บุญเหลือ และบอกว่าแม่บุญเหลือนั้นมีลูกด้วย หลังเสียชีวิต ย่าโมก็รับลูกของแม่บุญเหลือมาเป็นลูกตัวเอง

หลังเรื่องราวถูกแพร่ออกไป ก็มีชาวโคราช จำนวนมากที่ไม่พอใจ ที่อาจารย์เรนนี่ บิดเบือนประวัติศาตร์ หมิ่นปลัดทองคำ เอาลูกบุญธรรมเป็นภรรยา ซึ่งกล่าวในวัดศาลาลอย ที่มีอัฐิย่าโมอยู่ ซึ่งคำกล่าวอ้างของดังกล่าว ถือเป็นการเหยียบย่ำหัวใจผู้หญิง เหยียบย่ำหัวใจย่าโมเป็นอย่างมาก 

ล่าสุด นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรายการช่องส่องผี เดินทางไปบันทึกเทปรายการที่ วัดศาลาลอย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่า ตนได้รับรายงานจาก พศ.และจากการติดตามข่าว ซึ่งปกติตนไม่เคยดูรายการช่องส่องผี และไม่เคยคุยกับผู้ดำเนินรายการ มาดูหลังจากเป็นประเด็น เห็นแล้วไม่สบายใจ ตอนเจอคนโคราชก็ได้บอกกับตนว่าไม่สบายใจ บางคนโมโหเป็นเดือดเป็นแค้น แสดงความไม่พอใจ เป็นการแสดงออกทางจิตใจ มีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ดูแล้วไม่เหมาะสม ส่วนกรณีผู้ดำเนินรายการเดินทางไปบันทึกเทปที่วัดศาลาลอยนั้น ตนได้ให้ พศ.ไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าไม่มีการขออนุญาตถ่ายทำรายการเป็นลายลักษณ์อักษร เพียงแต่ไปขอด้วยวาจากับเจ้าอาวาส

 

 กรณีมีการบิดเบือนประวัติคุณย่าโมและย่าบุญเหลือนั้น เป็นสิ่งที่เขาไม่รู้ประวัติศาสตร์จริง ๆ คุณย่าทั้งสองท่านเป็นที่เคารพของชาวโคราชและคนไทยทุกคน จึงสั่งให้ พศ.นำข้อมูลไปมอบให้กรมศิลปากรซึ่งเป็นผู้เสียหายเพื่อให้ดำเนินคดี หากบิดเบือนประวัติศาสตร์จริง ๆ ให้ดำเนินการ เราจะสนับสนุนเรื่องข้อมูล รวมถึงจะให้ พศ.ทำข้อมูลส่งไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาที่ถือเป็นผู้เสียหายอีก 1 คน ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด และอีกส่วนหนึ่งหากยังมีอยู่คือ ญาติพี่น้องของคุณย่าที่เป็นผู้เสียหาย 

“ตนคิดว่าเรื่องนี้ชาวโคราชคงไม่ยอม เพราะทำให้เกิดความเสียหายมาก เหมือนเป็นการลบหลู่ ที่ผ่านมาอาจมีกรณีคล้ายคลึงแบบนี้บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นไปนั่งที่วัด มีการทำกราฟฟิกและได้ยินเสียงพูดอะไรทำนองนั้น ตนคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นความจริง”

 ส่วนประเด็นการงดออกอากาศนั้นของทางรายการนั้น จะให้ พศ.มีจดหมายไปถึง กสทช.ให้ช่วยตรวจสอบอีกแรงหนึ่ง แต่หากเขาไปทำที่อื่นไม่ใช่วัด ก็ไม่ใช่ส่วนที่ พศ.ดูแล นอกจากนี้ ยังให้ พศ.แจ้งไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศ หากจะมีการจัดรายการเช่นนี้อีกให้พิจารณาให้รอบคอบ โดยอยู่ในอำนาจของเจ้าอาวาส