จากกรณีที่ นายชาญชัย   พลศรี  ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.เสรี   ภูษาชีวะ  ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ  เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นาย ป.(นามสมมุติ) นักข่าว นสพ.ส่วนกลางฉนับหนึ่งประจำ จ.ศรีสะเกษ ที่ไปแอบอ้างชื่อของ ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ศรีสะเกษ เรียกรับเงิน จำนวน 1,900,000  บาท จากผู้บริหารระดับสูงของ อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งถูก ป.ป.ช.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดเนื่องจากเบิกจ่ายเงินโครงการปรับปรุงถนน จำนวน 27 โครงการไม่เป็นไปตามระเบียบกฏหมายของทางราชการ

 

 

โดย นาย ป.อ้างว่า มีความสนิทสนมกับ นายชาญชัย และได้เรียกรับเงินเพื่อที่จะใช้ในการวิ่งเต้นล้มคดีทุจริตดังกล่าว ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ  ได้ทำการสอบปากคำพยานทุกคนเรียบร้อยแล้ว ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น 

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อเวลา  12.30 น. วันที่ 3 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  พ.ต.ท.ทองพูน ประกอบกิจ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ พนักงานสอบสวนคดีนี้กล่าวว่า  ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยตนได้ทำการสอบปากคำพยานบุคคลที่เป็นผู้นำเอาเงินไปให้ นาย ป.(นามสมมุติ) เรียบร้อยแล้ว  โดยพยานทุกคนได้ให้การยืนยันชัดเจนตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า ได้นำเอาเงินไปให้ นาย ป.จริง   โดยตนได้นำเสนอเรื่องนี้ไปให้ พ.ต.อ.เสรี ภูษาชีวะ  ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับทราบแล้ว

 

 

พ.ต.ท.ทองพูน กล่าวต่อว่า เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561  มาตรา 175 ที่ระบุว่า "ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือ ผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือได้จูงใจ เจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือ เจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ โดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตน ให้กระทําการ หรือไม่กระทําการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ"