"อดีตดาราสาว" ถูกสามีพาพวกบุกล้อมรถ แย่งลูกสาว 1 ขวบหายไป
12 ก.ค. 2562, 17:46
วันที่ 12 ก.ค.62 น.ส.เซลิน่า เพียซ อดีตนักแสดงสังกัดช่อง 3 และนางแบบลูกครึ่งไทย-อังกฤษ พร้อมบิดา ได้เดินทางเข้าร้องเรียนร้องทุกข์ต่อ นายสุรเชษฐ์ วรวงศ์ นิติกรศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความเป็นธรรม กรณี นายดิษยเดช กนกวิริยะสันติ ซึ่งเป็นสามี พร้อมพวกได้นำกำลังเข้าล้อมรถยนต์และได้นำตัวบุตรสาวไปจากความดูแล โดยที่ไม่ได้รับความยินยอม
ทำให้ตนและครอบครัวเกิดความหวาดกลัวและเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่บุตรสาว การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ท้าทายอำนาจรัฐ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.00 น. ณ บริเวณร้านขนมจีนสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
น.ส.เซลิน่า กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังจะถอยรถได้มีสัญญาณรถดังขึ้น ก็คิดว่าขับรถชน จึงมองไปทางกระจกพบว่ามีรถจอดอยู่ด้านหลัง มีผู้ชายใส่เสื้อสีขาวชี้มาที่รถของเรา หลังจากนั้นก็มีชายใส่เสื้อสีดำเดินมาเปิดประตูรถ ซึ่งตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ตนคิดว่าตนชนรถเค้า จึงเปิดประตูรถออกมาแล้วเค้าก็บอกว่า คุณลักตัวเด็กจากกรุงเทพฯ ไป ตนเลยถามกลับไปว่าเด็กที่ไหน เพราะว่าเด็กในรถก็คือลูกของตน
ตอนนั้นประตูฝั่งพี่เลี้ยงก็ถูกเปิด เพราะว่าถ้าประตูรถข้างหนึ่งเปิด ที่เหลือจะถูกเปิดออกมา เป็นพ่อของเค้าอุ้มลูกแล้วก็เอาลูกไปเลย แล้วลูกก็ร้องไห้ ตนก็เรียกชื่อพ่อเค้าบอกเอาลูกของตนมา ซึ่งเวลานั้นตนเห็นตำรวจ 2 นายและคนอีกหลายคน ทุกคนก็พยายามดันไม่ให้ตนออกไปเจอลูก แล้วเค้าก็พาลูกออกไปอย่างเร็ว พร้อมบอกให้ไปเจอกันที่โรงพัก ตนยังไม่มีโอกาสได้มองลูกเลย หลังจากที่ไปเจอกันที่โรงพัก ก็ไม่ได้เจอกันเลย เขาเอาลูกไปแล้ว เจอเพียงแค่ทนายของเขา
จริงๆ แล้ว เรามีปัญหากันตลอด ตนเลยตัดสินใจเดินออกมา โดยไม่ได้บอกฝ่ายชาย แล้วมาที่ภูเก็ต 1 อาทิตย์ผ่านไปเค้าติดต่อมาหาพ่อของตน เพราะเค้าติดต่อมาทางตนไม่ได้ เพราะว่าตนบล็อกเค้า ด้วยเหตุผลต้องการขอเวลาอยู่กับตัวเองสักพัก หลังจากนั้นเค้าก็บินมาเพื่อขอคุยกับพ่อประมาณ 3 ชม. และขอคุยกับตน แต่พอได้คุยกันแล้วก็ไม่สามารถตงลงกันได้ เขาคงโมโหแล้วก็ดำเนินการอะไรของเขานั้น
ตนไม่รู้ แต่พ่อก็พูดตลอดว่า คุณจะมาเจอลูกเมื่อไหร่ก็ได้ ตนก็พูด คือตนไม่เคยปิดกั้นเพราะเขาก็คือพ่อ ตนแค่บอกว่าขอเวลาให้ตัวเอง การที่เราจะกลับไปคบกันเหมือนเดิมมันผ่านอะไรมาเยอะ ตนขอเวลาแค่นั้น แต่กลายเป็นว่าเขาคงเค้าใจในมุมของเขา ซึ่งตนก็เข้าใจ แต่บ้านตนไม่เคยปิดเขาอยากมาเมื่อไหร่ก็ได้ เขาก็รู้ ว่าบ้านตนอยู่ไหน
ตอนนี้ลูกอายุ 1 ขวบ 4 เดือน ตนเลี้ยงเขาตลอด มีเฉพาะในช่วงที่แม่ของตนป่วยอยู่โรงพยาบาลตอนนั้น จึงนำลูกไปฝากเขาเลี้ยงบ้าง เพราะว่าตนต้องดูแลแม่ แม่ป่วยอยู่โรงพยาบาล เพราะว่าตนเป็นลูกคนเดียว ที่บ้านเขามีพี่เลี้ยงมีแม่บ้าน ก็ช่วยกัน แต่ถ้าฟูลไทม์ตนเลี้ยง ช่วงอยู่ภูเก็ตตนต้องหาพี่เลี้ยงเพราะว่าตนต้องทำงานและเลี้ยงลูกไปด้วย
ช่วงที่ตนมีน้องมีปัญหากัน มีมาตลอดตั้งแต่เราท้องแล้ว ปัญหามีอยู่เรื่อยๆ ก็พยายามแก้กันเรื่อยๆ แต่คุยกันคนละภาษา เรารู้ว่ามันคุยกันไม่ได้ เรื่องการแลลูก หลังจากนี้คงต้องให้ทนายเป็นคนดูแลจัดการเรื่องนี้ เราเลี้ยงเค้ามาตลอด รู้ว่าลูกต้องการอะไร ตอนนี้ก็รู้สึกเป็นห่วงลูก
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ น.ส.เซลิน่า ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ศักดิ์ชัย ฉุ้นย่อง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันก่อนเดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด