มาแล้ว ขั้นตอนการลงทะเบียน "เราเที่ยวด้วยกัน" รับสิทธิ์พร้อมกัน 15 ก.ค.นี้
5 ก.ค. 2563, 10:22
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชนผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงาน และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม ระยะเวลาโครงการ 4 เดือน ระหว่าง 1 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563 โครงการนี้รัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมที่พัก โดยรัฐจะช่วยจ่าย 40% เมื่อนักท่องเที่ยวเช็คเอาท์จากห้องพัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ
เบื้องต้น เว็บไซต์ “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้เปิดให้ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทยอยเข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการก่อน โดยสามารถลงทะเบียนร้านค้าได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนประชาชนทั่วไป จะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่ 06.00 น. เป็นต้นไป
ประชาชนที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ก่อน จึงจะสามารถใช้สิทธิ์บนแอปพลิเคชันเป๋าตังได้
ทั้งนี้ สำหรับเงินที่รัฐจะช่วยให้นักท่องเที่ยวที่ใช้สิทธิ์เป็นค่าอาหาร และค่าแหล่งท่องเที่ยว จะได้รับเงินผ่านเข้าแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่เรียกว่า “บัตรกำนัลดิจิทัล” (อีวอยเชอร์) จำนวน 1,200 บาท สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่เช็กอินในโรงแรม จนถึงวันเช็กเอาต์ เวลา 23.59 น. โดยมีเงื่อนไขว่าต้องนำไปใช้ในร้านค้าที่อยู่จังหวัดเดียวกับที่ตั้งของโรงแรมที่พักเท่านั้น ซึ่งถ้าใช้เงินในแอปพลิเคชันเป๋าตังไม่หมด จะไม่สามารถนำกลับมาใช้ที่กรุงเทพฯ ได้
รวมทั้งจะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน โดยให้ประชาชนออกค่าใช้จ่ายซื้อตั๋วเดินทางไปก่อน แล้วรัฐจะจ่ายคืนให้ ไม่เกิน 1,000 บาท ต่อ 1 ที่นั่ง
เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ จะใช้ app เป๋าตังค์ได้ ต้องผูกหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ สามารถเข้าใช้งานได้ด้วยการผูกบัญชีกรุงไทย
และสามารถเข้าใช้งาน G-wallet ด้วยการรับรหัส OTP จากเบอร์ที่ลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อยืนยันตัวตน
หากมีปัญหาติดต่อเบอร์ 0-2111-1144 หรือสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ
สำหรับขั้นตอนในการลงทะเบียนรับสิทธิ์
ต้องเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ http://www.เราเที่ยวด้วยกัน.com/ แล้วระบบจะมีให้เลือกรับสิทธิ์ผ่าน 2 โครงการ คือ 1. โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ 2. โครงการ “กำลังใจ” ในที่นี้ให้คลิกที่โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งเป็นโครงการที่ให้สิทธิ์คนทั่วไปสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ โดยเมื่อกดคลิกที่โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ระบบก็จะเชื่อมต่อไปยัง www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ให้เลย
ขั้นตอนที่ 1 คลิกเข้าเว็บ www.เที่ยวปันสุข.ไทย
เริ่มจากประชาชนคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย เมื่อเข้าไปแล้วจะเจอเมนู “เราเที่ยวด้วยกัน” จากนั้นให้เลือกคลิกที่เว็บเพจ ระบบก็จะเปิดให้มีการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ก่อน
คาดว่าจะมีการให้กรอกรายละเอียดส่วนตัวต่างๆ เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์มือถือ เลขบัตรประชาชน เลข OTP เป็นต้น จากนั้นตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและกดยืนยัน แล้วก็จะได้ Promotion Code ออกมา
- มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ประชาชนจะได้รับสิทธิ์เมื่อท่องเที่ยว กิน และนอน ในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง
ขั้นตอนที่ 2 นำโค้ดไปกดจองที่พัก “เราไปเที่ยวกัน”
จากนั้นก็ให้นำโค้ดที่ได้มา ไปใช้ในการจองที่พักในเมนู “เราไปเที่ยวกัน” อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 ล้านคืน(รูมไนท์) โดย 1 คน 1 สิทธิ์ จองได้สูงสุดไม่เกิน 5 ห้องต่อคืน ซึ่งระบบจะเชื่อมเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของโรงแรมที่ประชาชนต้องการจองห้องพัก
ขั้นตอนที่ 3 จองเสร็จต้องจ่ายทันที 60%
เมื่อจองเสร็จก็จ่ายค่าที่พักให้โรงแรม 60% ของราคาห้องพักต่อคืน โดยชำระด้วยบัตรเครดิต QR Code หรือ พร้อมเพย์ และจากนั้นรัฐบาลสนับสนุนจ่ายค่าห้องพักให้ 40% โอนตรงให้ทางโรงแรม แต่สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน โดยการจองห้องพักต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง
ขั้นตอนที่ 4 ต่อด้วยจองตั๋วเดินทาง ห้องพัก 1 ห้องจะได้รับสิทธิ์จองตั๋ว 2 ใบ
พอจองที่พักเสร็จแล้ว ถ้าใครจะจองซื้อตั๋วเครื่องบินด้วย ระบบก็จะให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์จองตั๋วเครื่องบินที่เมนู “เที่ยวปันสุข” ได้ต่อเนื่องไปเลย โดยจะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% เช่นกัน และประชาชนจ่ายเพียง 60% แต่การใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าตั๋วเดินทางนั้น จะใช้ในลักษณะที่ให้ประชาชนออกค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วรัฐจะโอนจ่ายคืนให้ในภายหลัง ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง
และมีการปรับเพิ่มสิทธิ์ให้เพิ่มเติม คือ แต่เดิมกำหนดไว้ว่าหากประชาชนใช้สิทธิ์ “เราไปเที่ยวกัน” จองห้องพัก 1 ห้อง จะได้รับสิทธิจองตั๋วเครื่องบิน 1ใบ แต่ล่าสุดปรับใหม่เป็นจองห้องพัก 1 ห้องจะได้รับสิทธิ์จองตั๋ว 2 ใบ เพื่อให้เดินท่องเที่ยวได้พร้อมกันเป็นคู่
ขั้นตอนที่ 5 รอรับเงิน 3,000 บาท เข้าแอพฯ “เป๋าตังค์”
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการจองดังกล่าวแล้ว ในวันที่ออกเดินทางท่องเที่ยวจริง นักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนจองที่พักผ่าน “เราไปเที่ยวกัน” เอาไว้ จะได้รับเงินเที่ยวในลักษณะบัตรกำนัลดิจิทัล หรือ อี-เวาเชอร์ ผ่านแอพฯ “เป๋าตัง” จำนวน 1,200 บาทเพื่อนำไปใช้เป็นค่าอาหาร ค่าใช้บริการในแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดท่่ลงทะเบียน (ซึ่งในแต่ละร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว ที่ไปใช้บริการ นักท่องเที่ยวจ่าย 60% ของค่าใช้จ่ายจริง รัฐจ่าย 40%)
สถานประกอบการผ่านแอพฯ “ถุงเงิน”
โดยสามารถสแกนบาร์โค้ดชำระเงินให้สถานประกอบการผ่านแอพฯ “ถุงเงิน” ซึ่งสถานประกอบการต่าง ๆ จะต้องเตรียมพร้อมแอพฯ ถุงเงินไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย และนักท่องเที่ยวสามารถใช้เงินก้อนนี้ได้ตั้งแต่วันที่เช็คอิน ถึงวันที่เช็คเอาท์ เวลา 23.59 น. เท่านั้น หากใช้เงินจำนวนนั้นๆ ไม่หมด จะไม่สามารถนำไปใช้ต่อที่จังหวัดอื่นๆ ได้ (ต้องใช้ในจังหวัดที่ไปเที่ยวเท่านั้น) และระบบจะยึดเงินส่วนที่เหลือกลับคืนทันที
ผู้ใช้สิทธิ์ต้องจ่าย 60% ก่อน และ เงิน 40% รัฐบาลจะจ่ายให้ผู้ประกอบการ ไม่ใช่คืนมาที่ผู้เข้าพัก
ประชาชนที่เข้าร่วมในโครงการ “เราไปเที่ยวกัน” 1 คนจะได้ 1 สิทธิ์ พักโรงแรมได้ไม่เกิน 5 คืน ซึ่งเงื่อนไขที่วางไว้ว่ารัฐบาลจ่ายให้ 40% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน เท่ากับราคาห้องสูงสุดจะอยู่ที่คืนละ 7,500 บาท ถ้าใช้สิทธิ์เต็ม 5 คืน เท่ากับรัฐบาลจะจ่ายค่าที่พัก 15,000 บาทแทนผู้ใช้สิทธิ์ โดยผู้ใช้สิทธิ์ต้องจ่าย 60% ก่อน เป็นเงิน 22,500 บาท และเงิน 40% จำนวน 15,000 บาท รัฐบาลจะจ่ายให้ผู้ประกอบการ ไม่ใช่คืนมาที่ผู้เข้าพัก
ขั้นตอนการสมัครใช้ “เป๋าตัง”
1. เข้าไปที่ Play Store หากคุณใช้สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Android และ App Store หากเครื่องของคุณใช้ระบบปฏิบัติการ iOS
2. ค้นหาแอพพลิเคชั่น โดยพิมพ์ว่า “เป๋าตัง” (ภาพโลโก้คือกระเป๋าสตางค์สีฟ้า)
3. ดาวน์โหลดเพื่อทำการติดตั้งลงเครื่อง
4. เปิดแอพพลิเคชันที่ติดตั้งแล้วขึ้นมา จะพบว่าแอพฯ ต้องการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานของคุณ ให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ผู้ใช้งานลงไป ระบบจะทำการส่งรหัส OTP มาทางข้อความ ให้คุณกรอกรหัสนั้นลงไปในแอพฯ
5. ระบบจะขอ PIN หรือรหัส 6 หลัก ผู้ใช้จะต้องตั้งรหัสรักษาความปลอดภัย 6 หลักนี้เพื่อเข้าใช้งานแอพฯ เป๋าตังทุกครั้ง ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องจำรหัส 6 หลักนี้ไว้ให้ดี เพื่อใช้ในการเข้าสู่แอพพลิเคชั่น
6. เมื่อได้รหัส 6 หลักแล้ว ก็สามารถนำรหัสนี้เข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นเป๋าตังได้เลย
ที่มา : krungthaicare