ผบ.ตร.บินด่วน หลังตัดท่อน้ำเลี้ยงโจรใต้ 2 ล็อตใหญ่ ที่นราฯ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
3 ก.ค. 2563, 19:03
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บริเวณศูนย์ราชการ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยมี พล.อ.จตุพร กลัมพสุต ผอ.สำนักงานข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดยเมื่อ ผบ.ตร. และคณะฯ เดินทางถึงได้ขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองเกียรติยศ จากนั้นเข้าไปยังห้องประชุมเพื่อหารือกันเป็นการภายในประมาณ 10 นาที โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมรับฟัง ก่อนจะเปิดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อสื่อมวลชนถึงผลการปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
โดยล่าสุดในพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน 2 คดีสำคัญ โดยคดีแรกเจ้าหน้าที่กำลังร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สภ.มูโนะ ฉก.นราธิวาส 30 และศูนย์ปฏิบัติการยาเสพติด อ.สุไหงโก-ลกได้ทำการจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาขนยาเสพติด (ไอซ์) ล็อตใหญ่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยผู้ต้องหาประกอบด้วย นายสมชาย เทียนเครือ อยู่บ้านเลขที่ 49/7 ม.4 อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และ นายคำรณ จันทมณี อยู่บ้านเลขที่ 82/3 ม.2 ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา พร้อมยาไอซ์ ที่บรรจุใส่ไว้ในกระสอบ จำนวน 35 กระสอบ น้ำหนัก 1,425 กิโลกรัม ที่บรรทุกมากับรถยนต์บรรทุก 18 ล้อ แบบหัวลาก ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-5823 สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้ปนปะมากับสินค้าเหล็กเส้น เพื่อรอส่งให้ นายอาแว เมาะบากอ ที่จอดรออยู่ปากทางเข้าบ้านปะดาดอ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยในช่วงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค.63 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.จำรัส รุ่งเรือง ผกก.สภ.มูโนะ รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่จะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่ มาส่งให้เอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่ จึงได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากใบ เพื่อร่วมสกัดกั้นและจับกุม โดยให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและฝ่ายป้องกันและปราบปรามนั่งรถยนต์ตรวจสอบ จนกระทั่งพบรถยนต์บรรทุก 18 ล้อ แบบหัวลาก จอดอย่างมีพิรุธบนถนนปากทางเข้าบ้านปะดาดอ ต.นานาค อ.ตากใบ เจ้าหน้าที่จึงได้จอดรถและพูดคุยกับ นายสมชาย เทียนเครือ คนขับ และนายคำรณ จันทมณี ที่นั่งคู่กันมาด้วย โดยขอความร่วมมือให้เคลื่อนย้ายรถคันดังกล่าว เพื่อนำมาตรวจค้นที่จุดตรวจหน้า สภ.มูโนะ เนื่องจากจุดจอดรถหัวลากเป็นพื้นที่เปลี่ยว ไม่เอื้ออำนวยต่อการตรวจค้นและเมื่อถึงบริเวณหน้าจุดตรวจเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายสมชายและนายคำรณ ลงจากรถ และต้องตกตะลึงเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ที่บริเวณตัวถังต่อจากข้อต่อหัวลากของรถยนต์บรรทุก 18 ล้อ มียาไอซ์ จำนวน 35 กระสอบ น้ำหนัก 1,425 กก. ซุกซ่อนอยู่ โดยมีผ้าใบกันฝนปิดทับเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ขณะขนย้าย สำหรับยาไอซ์ล็อตใหญ่นี้เมื่อส่งผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จะมีมูลค่ากว่า 427 ล้านบาท ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การว่า ได้บรรทุกขี้เลื่อยจาก จ.สุราษฎร์ธานี และนำไปส่งใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อแล้วเสร็จได้บรรทุกเหล็กเส้นจาก อ.บางกระดี่ จ.สมุทรสาคร ไปจอดที่ปั้มไข่มุก และเดินทางลงใต้ก่อนจะได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าจะนำรถบรรทุกไปใส่ของผิดกฎหมาย โดยไม่รู้ว่าเป็นยาเสพติด ก่อนที่จะมีการสับเปลี่ยนคนขับ จากนั้นมีการนำรถมาจอดที่เดิม นายสมชาย ผู้ต้องหาจึงได้ขับรถโดยมี นายคำรณ นั่งมาด้วยจนถึง อ.สุไหงโก-ลก ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว
ส่วนคดีที่ 2 ชุดจับกุมปราบปรามยาเสพติดร่วมจับกุม นายวันอาสลัน แวมูซอ สมาชิกสภาเทศบาล ต.แว้ง อ.แว้ง พร้อมพวกรวม 7 คน ซึ่งภายหลังถูกจับทั้งหมดรับสารภาพว่าทำหน้าที่สั่งการ รับติดต่อ รับลำเลียง พักยา ฝังกลบและเผาทำลายยาเสพติด
โดยของกลางที่ตรวจยึดได้คือ ยาเสพติดประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 36 ถุง น้ำหนัก 6.3 กก. ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการแจ้งเบาะแสจากสายข่าวว่าจะมีการลำเลียงพัสดุจาก ถ.รัชดาภิเษก กทม.ปลายทาง อ.สุไหงโก-ลก จึงได้ติดตามเป้าหมาย จนพบว่ามีกลุ่มบุคคลมารับพัสดุที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จึงได้สะกดรอยตามไปจนถึงบ้านพักใน อ.แว้ง ก่อนบุกเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 7 คน และจากการซักถามรับว่าทำมาแล้วหลายครั้ง มีนายทุนประเทศเพิ่อนบ้านเป็นผู้สั่งการและจะนำยาเสพติดไปส่งใน อ.สุไหงโก-ลก ชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดทรัพย์ของกลาง อาทิ บ้านพร้อมที่ดินจำนวน 5 หลัง รถยนต์จำนวน 9 คัน รถ จยย.อีก 4 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท และจะทำการขยายผลต่อไป
ทางด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดต้องชะลอสินค้าเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการปลดล็อคทำให้ต้องรีบส่งของที่ถูกอั้นมานานหลายเดือน ส่วนกลุ่มนายทุนตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผลสู่ตัวการใหญ่ที่ทราบเบาะแสแล้ว โดยต้นทางมาจากทางภาคเหนือ อีกทั้งยังถือเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย ขณะ ยาไอซ์ ยังเป็นที่ต้องการ เครือข่ายค้ายาต่างประเทศ "ถ้าหลุดออกไปต่างประเทศจะมีมูลค่า เกือบหมื่นล้านบาท" ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้าย