เรียน "ออนไลน์" ไม่เหมาะเด็กเล็กผอ.ยอมรับ ผู้ปกครองไม่มีเวลา-ขาดทักษะด้านวิชาการ
1 ก.ค. 2563, 16:49
วันที่ 1 ก.ค. 63 ผู้สือข่าวONB newsรายงานจากนายจิรายุ สีมาพานิช ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์(สละชีพ) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในช่วงที่ครบกำหนดเปิดภาคเรียนการศึกษาแต่ยังติดอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้โรงเรียนและสถานศึกษาหลายแห่งต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนการสอนนักเรียนในรูปแบบระบบออนไลน์แทน ซึ่งการเรียนในระบบออนไลน์ หรือระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมเหมาะกับเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก อย่างเช่น อนุบาล และเด็กประถม เนื่องจากการเรียนระบบออนไลน์ที่บ้านต้องอาศัยผู้ปกครองคอยกำกับดูแลให้คำแนะนำ และสอนเพิ่มเติมให้กับบุตรหลานของตัวเอง แต่ที่ผ่านมาประสบกับปัญหาผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลบุตรหลานจะต้องไปทำงานหารายได้เลี้ยงชีพ อีกทั้งผู้ปกครองบางรายยังขาดความรู้และทักษะทางด้านวิชาการในการสอนเพิ่มเติมให้กับนักเรียน เพราะฉะนั้นทางโรงเรียนจึงเตรียมที่จะเพิ่มห้องเรียนให้มากขึ้นโดยนำห้องที่ไม่ได้ใช้งานและห้องเก็บของนำมาใช้เป็นห้องเรียนแล้วกระจายแบ่งนักเรียนห้องที่มีจำนวนมากออกมาเพื่อลดความแออัด ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้พยายามสร้างความรู้ความเข้าใจถึงมาตรการต่างๆให้กับผู้ปกครองนักเรียนได้ปฏิบัติตาม ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยทางโรงเรียนก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ครูเข้าดูแลนักเรียนที่เป็นเด็กเล็กเป็นพิเศษ เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าเรียน และการเว้นระยะห่าง อาจทำให้เด็กเล็กมีความเครียดบ้าง เนื่องจากจะไม่มีโอกาสได้ปล่อยให้เด็กได้วิ่งเล่นเหมือนก่อน โดยเข้ามาภายในโรงเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์เสร็จแล้วจะพาเข้าห้องเรียนทันที
จากปัญหาการเรียนในระบบออนไลน์ที่ได้ทดลองออกอากาศทางไกลผ่านดาวเทียมในช่วงวันที่ 18 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 63 ที่ผ่านมานั้น ผู้ปกครองส่วนหนึ่งไม่มีเวลาดูแลนักเรียนขณะเรียนทางไกลได้ และผู้ปกครองส่วนหนึ่งยังขาดความรู้ทางด้านงานวิชาการไม่สามารถจะแนะนำนักเรียนได้ ทางโรงเรียนจึงจำเป็นต้องเปิดเรียนรวมทั้งโรงเรียนตามปรกติ โดยจะขยายห้องเรียนที่มีนักเรียนเกิน 20 คนขึ้นไปเป็น 2 ห้อง จนครบทั้งหมด หากไม่เพียงพอก็จะต้องใช้อาคารหอประชุมเรียนแทน เพื่อจะได้เว้นระยะห่าง 1 ถึง 1.5 เมตร ตามมาตรการได้ นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้จัดเตรียมแอลกอฮอล์ไว้ประจำห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ล้างมือก่อนเข้าห้องเรียน และได้จัดเตรียมเฟสชิวไว้ให้นักเรียนใช้ประจำตัวในห้องเรียนทุกคน เนื่องจากขณะเรียนต้องมีการตอบโต้กับครูผู้สอน ส่วนการจัดตารางเรียนประจำวัน ชั้นอนุบาลจะให้ผู้ปกครองมารับกลับหลังรับประทานอาหารกลางวัน ส่วนชั้นประถมศึกษาก็จะเรียนตลอดวัน แต่ในระหว่างเรียนจะมีช่วงว่างให้นักเรียนได้มีการล้างมือ และเมื่อนักเรียนเข้ารับประทานอาหารในโรงอาหารจะต้องมีครูคอยดูแลนักเรียนตลอดเวลาและแบ่งการรับประทานอาหารออกเป็นรอบๆ เพื่อเว้นระยะห่างรวมถึงแม่ครัวที่ประกอบอาหารจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะประกอบอาหารให้กับนักเรียนและคุณครูรับประทานอีกด้วย/////