กาญจนบุรี  ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ หัวหน้าคณะติดตามคดีน้องดาว ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับคณะทำงานของจังหวัดกาญจนบุรี หลังได้รับการแต่งตั้งจากผู้บัญชาการภาค 7 วานนี้ ส่วนการออกหมายเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานก่อน

วันที่ 26 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุพัฒน์ เชยชิด ผทค.พิเศษ ตร.ปฎิบัติหน้าที่ ภ.7 ลงพื้นที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสำนวนคดี กรณีการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ นางสาวณัฐตินี เหลืองต้นตระกูล หรือ น้องดาว อายุ 18 ปี อดีตนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งของ จ.กาญจนบุรี เมื่อมาถึง พล.ต.ท.สุพัฒน์ ได้เข้าไปเป็นประธานการประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการ สภ.ท่าม่วง ทันที โดยมี พล.ต.ต.วรณัน เจริญสุข ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.อภิชาติ ศรีทองกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง และที่สำคัญการประชุมครั้งนี้มี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งการประชุมครั้งนี้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่ง พล.ต.ท.สุพัฒน์ เชยชิด กล่าวกับสื่อเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 มอบหมายให้มาตรวจสำนวนคดี เท่านั้น

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุของชุดสืบสวน พบว่า นอกจากจะมียาเสพติดแล้ว ยังพบยาเสียสาวและยานอนหลับในที่เกิดเหตุด้วย

เบื้องต้นมีรายงานสาเหตุการเสียชีวิตของน้องดาว ว่าผู้เสียชีวิตได้รับสารเสพติดประเภทหนึ่งเฮโรอีนโดยการผสมน้ำหรือน้ำอัดลม / คีตามีน (ยาเสียสาว) ได้รับเกินขนาดทำให้เกิดอาการชักเกร็งชัก น้ำลายฟูมปากโดยการผสมน้ำหรือน้ำอัดลม และกลุ่มยานอนหลับ ซึ่งเป็นยานอนหลับมีฤทธิ์ทำให้นอนหลับเร็ว และสูญเสียความทรงจำชั่วขณะใช้ผสมน้ำหรือน้ำอัดลม

ส่วนสาเหตุที่เลือดไหลออกจากปากออกจมูกระบบเลือดในช่องเยื้อหุ้มปอดด้านซ้ายประมาณ 100 CC มีรอยปริขนาดเล็กและมีเลือดซึมเล็กน้อยที่ยอดปอดเกิดจากการกดทับการทำ CPR อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทางตำรวจจะต้องทำการสอบสวนให้เป็นข้อกระจ่างคือใครเป็นคนนำยาเสียสาวและยานอนหลับมาผสมในเครื่องดื่มให้ผู้เสียชีวิตกิน รวมถึงแหล่งที่มานำมาจากที่ใดใครเป็นคนจัดหา และเพราะเหตุใดถึงต้องให้ยานอนหลับกับผู้เสียชีวิตดื่ม และในขณะนี้พลตำรวจโทสุพัฒน์ เชยชิด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พลตำรวจตรีวรนัน สุขเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ในระหว่างการประชุม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในห้องประชุมได้ออกจากห้องบางส่วนแล้วได้ไปนำตัว นายพงษ์พัฒน์ หรือพัฒน์ นักเพียร มายัง สภ.ท่าม่วง เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มโดยไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าไปให้ห้องสอบสวนแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจค้นเพิ่มเติมที่บ้านของนาย พัฒน์ ซึ่งเป็นบ้านที่น้องดาวนอนเสียชีวิต จากการตรวจค้นได้พบสารเสพติดประเภทหนึ่งเฮโรอีนโดยการผสมน้ำหรือน้ำอัดลม / คีตามีน (ยาเสียสาว) อยู่ภายในบ้าน จึงนำตัวไปสอบสวนยัง สภ.ท่าม่วง  ทราบว่าระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อไปขอหมายจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี แต่ยังไม่ทราบว่าจะขอหมายกับใครบ้าง

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเดินทางไปเชิญตัว นายมานพ  เหลืองต้นตระกูล นางตุ๊ก ไม่มีนามสกุล เข้าไปในห้องประชุม เพื่อให้รายละเอียด แก่พล.ต.ท.สุพัฒน์ เชยชิด ได้ทราบโดยใช้เวลาเพียง 20 นาที ทั้ง 2 ได้เดินออกจากห้อง โดย นายมานพ ได้บอกกับสื่อเพียงสั้นๆ ว่ารู้สึกพอใจในการทำหน้าที่ของตำรวจ ในครั้งนี้ต้องขอให้ผลพิสูจน์ออกมาก่อนจึงจะทราบชัดเจนไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้ ก่อนขอตัวขึ้นโดยมีรถตู้ของตำรวจ นำกลับไปส่งยังบ้านต่อไป 

โดยเบื้องต้น พลตำรวจตรีวรนัน ระบุว่า ผลการชันสูตรศพน้องดาวออกแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ภายในวันนี้ ส่วนนายอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงษ์ กล่าวว่าที่มาครั้งนี้เนื่องจาก แม่ของน้องดาว เป็นชาวเมียนมา เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

และล่าสุดเวลา 14.45 น. ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อนุมัติหมายจับ นายพงษ์พัฒน์ นักเพียร หรือ พัฒน์ อายุ 22 ปี 2 ข้อหา โดย พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง ได้เปิดเผยเกี่ยวกับหมายจับว่าพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปขออำนาจศาลจังหวัดกาญจนบุรี ออกหมายจับ นายพงษ์พัฒน์ นักเพียร หรือ พัฒน์ อายุ 22 ปี แฟนหนุ่มของน้องดาว ใน 2 ข้อหา ได้แก่ ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นที่มิใช่ภรรยาในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท โคเดอีน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังจากนั้นตำรวจสืบสวนได้นำตัว นายพัฒน์ ผู้ต้องหา มาที่สภ.ท่าม่วง และส่งมอบให้คณะพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำทันทีหลังหมายจับโรงพัก ซึ่งระหว่างที่เดินเข้าห้องสอบนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวมีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบคำถามกับใครทั้งสิ้น