"วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวง" เปิดสอนวิชาชีพให้ผู้ด้อยโอกาสเรียนฟรี ให้โอกาสเด็กตามแนวชายขอบชายแดนไทย - กัมพูชา
26 มิ.ย. 2563, 08:07
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้จัดตั้งขึ้นตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิคือ ต้องการจัดการศึกษาด้านวิชาชีพให้กับผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา โดยเป็นการจัดการศึกษาแบบให้ฟรี ไม่แสวงหาผลกำไร เน้นสร้างอาชีพให้กับเยาวชน ประชาชนในพื้นที่ และพร้อมที่จะขยายการรับนักศึกษาไปยังประเทศกัมพูชา โดยมี พระวินัยเมธี เจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษ (ธ.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้ประกอบพิธีเจิมป้ายวิทยาลัย เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งนางชไมมาศ ชาติเมธากุล ประธานบริษัท สุขภัณฑ์คริสตินา (ประเทศไทย) จำกัด และประธานที่ปรึกษาอาวุโส วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ได้นำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ครบชุด จำนวน 48 ชุด เครื่องตัดหญ้า จำนวน 1 เครื่อง มามอบให้กับวิทยาลัยและส่วนราชการต่าง ๆ ที่ได้ร้องขอ เพื่อนำเอาไปใช้ในการปฏิบัติราชการ มีการปลูกต้นไม้ พิธีทำบุญตักบาตร โดยมี ดร.อักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ประธานกรรมการอาชีวศึกษา จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี พ.อ.จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ คณะครู นักเรียน มาเข้าร่วมพิธีครั้งนี้จำนวนมาก
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ความเป็นมาของการจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา นั้น สืบเนื่องจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ได้เสด็จมา ณ วัดไพรพัฒนา ในปี 2558 ได้ดำริเรื่องการจัดการศึกษาด้านอาชีพให้กับประชาชนที่ขาดโอกาสและผู้ที่อยู่ห่างไกลความเจริญให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น มูลนิธิหลวงปู่สรวง จึงได้ทำหนังสือขอใช้ที่ดินจากกรมป่าไม้ จำนวน 114 ไร่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่จัดตั้งสถานศึกษา ซึ่งที่ดินที่ขอใช้นี้อยู่ติดกับพื้นที่วัดไพรพัฒนาไปทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดศรีสะเกษอนุญาตให้ใช้ที่ดินได้ โดยอาคารเรียนแห่งนี้จะใช้เป็นสถานที่เปิดทำการเรียนการสอนชั่วคราว จากนั้น อีกประมาณ 2 ปี จะย้ายไปสถานที่ของกรมป่าไม้ที่มอบให้วิทยาลัยใช้เป็นสถานที่ตั้งถาวร ขณะนี้กำลังดำเนินการปรับปรุงสถานที่ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ในเดือนกรกฎาคม 2563 นี้ ซึ่งตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คณะกรรมการมูลนิธิหลวงปู่สรวงและประชาชนทุกท่านจะร่วมแรงร่วมใจกัน ในการส่งเสริมและสนับสนุนในการพัฒนาวิทยาลัยแห่งนี้ ให้มีความเจริญก้าวหน้าตรงตามพระราชดำริของพระองค์ท่านอย่างเต็มที่ต่อไป
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งวิทยาลัยในวันที่ 28 เม.ย. 2563 โดยอาตมาภาพเป็นผู้รับใบอนุญาต และในวันที่ 25 พ.ค. 63 ได้รับการพิจารณาอนุญาตให้เปิดทำการสอนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยเปิดทำการสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาช่างยนต์ สาขาวิชาโยธา สาขาวิชาไฟฟ้ากำลัง สาขาวิชาการบัญชี และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มีนักศึกษาสมัครเข้าเรียนสาขาวิชาต่าง ๆ แล้วรวมทั้งสิ้น 225 คน ซึ่งในอนาคตวิทยาลัยแห่งนี้จะเปิดทำการเรียนการสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ครบทั้ง 5 สาขาวิชา ซึ่งผู้ที่จบการศึกษาในระดับ ปวช.แล้ว สามารถเรียนต่อในระดับ ปวส.ได้อย่างต่อเนื่อง
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนดีใจแทนลูกหลานคนชายแดนที่จะได้มีวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เพื่อสอนอาชีพที่สามารถนำความรู้จากการเรียนไปปฏิบัติงานได้จริง เรียนอาชีพจะทำให้เด็กมีงานทำทันที โดยเฉพาะมูลนิธิหลวงปู่สรวงก็สนับสนุนนักศึกษาที่มาเรียน โดยเปิดโอกาสให้ทำงานหารายได้ในวันเสาร์ - วันอาทิตย์ นอกจากได้เรียนฟรีแล้วยังมีชุดนักศึกษาให้ด้วย ผู้เรียนก็ไม่ต้องจากบ้านไปเรียนไกล หลวงพ่อพุฒท่านมีวิสัยทัศน์ที่ส่งเสริมการศึกษามาตลอด ที่ผ่านมาท่านให้ทุนเด็กเรียนดีแต่ยากจน และได้มอบคอมพิวเตอร์อุปกรณ์การศึกษาให้แก่โรงเรียนต่าง ๆอยู่เสมอ การเปิดวิทยาลัยในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้ทุกคนได้เรียนวิชาที่สนใจและถนัดเพื่อนำไปใช้ปฏิบัติจริงในการประกอบอาชีพ ได้แบ่งเบาภาระผู้ปกครอง จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เด็กจบออกมา ถ้าได้ภาษาต่างประเทศ ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษากัมพูชา ก็สามารถทำงานด้านการท่องเที่ยวได้เพราะวิทยาลัยแห่งนี้อยู่ติดกับแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ