สาวกินชานม วันละ 2 แก้ว จนระดับน้ำตาลในเลือดสูง สุดท้ายเกิดภาวะช็อก
10 มิ.ย. 2563, 15:12
เว็บไซต์มาเธอร์ชิป รายงาน เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ระบุว่า เด็กสาวคนดังกล่าวคือ เถียนเถียน (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี อาศัยอยู่ที่เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ทางตะวันออกของจีน โดยเถียนเถียนมีน้ำหนักตัวมากถึง 125 กิโลกรัม และไม่ชอบออกกำลังกาย
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เถียนเถียนเสพติดชานมหนักมาก เธอสั่งชานมมากินทุกวัน วันละ 2 แก้ว อีกทั้งยังกินน้ำอัดลมอีกด้วย รวมมูลค่าเครื่องดื่มที่เธอซัดไป ตกวันละประมาณ 100 หยวน หรือราว ๆ 440 บาท
เถียนเถียนทำแบบนี้ทุกวันติดต่อกัน 1 เดือน จนกระทั่งในช่วงเย็นของวันที่ 2 พฤษภาคม เถียนเถียนถูกพบอยู่ในสภาพแน่นิ่งไม่ได้สติ เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยหลังจากที่เก็บตัวอย่างเลือดของเธอไปตรวจ แพทย์พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของเธอสูงมาก จนทำให้เธอหมดสติ อาการโคม่า พวกเขาจึงนำตัวเธอส่งห้องไอซียูเป็นการเร่งด่วน
ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนที่เถียนเถียนจะหมดสติ เธอมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อยมากผิดปกติ และจากผลเลือดที่ตรวจหลังเธอหมดสติไป แพทย์พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของเถียนเถียนสูงกว่าคนปกติทั่วไปถึง 25 เท่า ส่งผลให้เธอเกิดภาวะช็อกและไตล้มเหลว ชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้ายและอยู่ในจุดวิกฤตมาก
นพ.หลู อี้หมิง และทีมแพทย์ประจำห้องไอซียู ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตเด็กสาว ทั้งสอดท่อช่วยหายใจ ให้เครื่องช่วยหายใจแบบอัติโนมัติ เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถหายใจได้เอง และฟอกเลือด
หลังจากอยู่ในห้องไอซียูเป็นเวลา 5 วัน เถียนเถียนก็ฟื้นจากภาวะโคม่า เธอได้สติแล้ว และไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอีกต่อไป ระดับกลูโคสในเลือดและระดับเม็ดเลือดแดงกลับมาเป็นปกติ และน้ำหนักตัวของเธอลดลงไปถึง 35 กิโลกรัม ในระหว่างอยู่ในห้องไอซียู
อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ โดยในวันที่ 1 มิถุนายน หลังจากรักษาตัวมานานร่วมเดือน แพทย์ก็ได้ย้ายเธอไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่น ซึ่งก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาลนี้ เถียนเถียนได้ให้สัญญากับหมอและพยาบาลว่าจะไม่ดื่มชานมอีกต่อไปแล้ว