ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 นายประเสริฐ ชัญจุกร กำนันตำบลลีเล็ด รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้ขนำเฝ้าคอกหอยกลางทะเลของชาวบ้านชุมชนบ้านคลองราง ท้องที่หมู่ 2 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จึงพร้อมชาวบ้านรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นขนำไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ตั้งอยู่สูงจากพื้นน้ำประมาณ 5 เมตร แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ซึ่งโชคดีไม่มีผู้ใดติดอยู่บนขนำเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหมดเหลือแต่เสา

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีเรือประมงขนาดเล็กประมาณ 300 ลำ รอตักเก็บหอย ในเขตพื้นที่ หมู่ 2 บ้านคลองราง ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน  ซึ่งเป็นพื้นที่รอหาข้อยุติ ขอให้ประชาชนหยุดการตัดเก็บหอยในพื้นที่ดังกล่าวก่อนได้มีชาย 2-3 คน นั่งเรือประมงขนาดเล็กหรือเรียกว่าเรือฮอนด้า  แล้วมีลักษณะคล้ายขว้างขวดบรรจุน้ำมันจุดไฟโยนขึ้นขนำ จนเกิดเพลิงไหม้ก่อนชาวบ้านที่มาหาหอยหนีกันเพื่อความปลอดภัย

 

 

 

ล่าสุดนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบให้นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน สำหรับคอกหอยดังกล่าวมีเนื้อที่เลี้ยงหอยแครงประมาณ 80 ไร่ ก่อนนี้เจ้าของได้ซื้อลูกหอยมาปล่อยเลี้ยงไว้ ได้ถูกชาวบ้านเข้ามาจับลูกหอยไปขายจนหมดแล้ว

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมพนักงานสอบสวน เดินทางเข้าตรวจสอบขนำ ในพื้นที่ ต.บางชนะ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 หลัง ที่พลโทสุทธิพร  มุสิกะสิน แม่ทัพน้อยที่ 4 พร้อมด้วย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ไปพบว่าปลูกอยู่ในเขตเป็นพื้นที่ชุมน้ำนานาชาติเป็นพื้นที่อนุรักษ์ไม่สามารถอนุญาตให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้ามายึด ซึ่งต่อมาเจ้าท่าได้เข้าแจ้งความร้องทุกร์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรสวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานีไว้แล้ว