"บิ๊กป้อม" ลงพื้นที่ตรวจแก้ปัญหาผักตบชวา-วัชพืช สั่งเร่งกำจัดให้เสร็จใน มิ.ย.นี้
20 พ.ค. 2563, 17:54
วันนี้ ( 20 พ.ค.63 ) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืช พร้อมรับฟังรายงานผลการดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช และตรวจเยี่ยมการทำงานเพื่อเตรียมการรับน้ำหลากในฤดูฝน ปี 2563 ที่ ต.ทรงคะนอง จ.นครปฐม สําหรับแผนพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัดนครปฐม ปี 2563 รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ 29 โครงการวงเงิน 636 ล้านบาท ได้แก่ เขื่อนป้องกันตลิ่ง ระบบป้องกันน้ำท่วม สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ประตูระบายน้ำ เมื่อพัฒนาเสร็จแล้วจะมีพื้นที่รับประโยชน์ 600 ไร่ เพิ่มแนวป้องกันตลิ่งได้ 15.925 กิโลเมตร มีพื้นที่ที่ได้รับการป้องกันน้ำท่วม 13,225 ไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 13,961 ครัวเรือน ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการแก้ไขปัญหา การขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้ง ปี 2562-63 (มติ ค.ร.ม. 7 ม.ค. 2563) 7 โครงการ งบประมาณ 6 ล้านบาท มีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้น 0.14 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีการจัดตั้งสถานีดักผักตบชวาและวัชพืช 5 จุด ได้แก่ บริเวณวัดโพธิ์ วัดบางพระ วัดไทยาวาส วัดทรงคนอง และวัดบางช่างเหนือด้วยเรือกําจัดผักตบชวาแบบสายพาน และแบ็คโฮแบบลงโป้ะอย่างละ 1 ลํา โดยในบริเวณพื้นที่สถานีและบริเวณพื้นที่สะสมของผักตบชวาหนาแน่นจะมีการเพิ่มเครื่องจักรเข้าไปแก้ไขปัญหา เปิดทางน้ำที่เป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง สําหรับพื้นที่รับผิดชอบ แม่น้ำท่าจีนในจังหวัดนครปฐม กําจัดผักตบชวาและวัชพืชไปแล้ว ในปีงบประมาณ 2562 จํานวน 404,941 ตัน และเริ่มต้นปีงบประมาณ 2563 ถึงปัจจุบันกําจัดได้ 230,780 ตัน ทั้งนี้การกําจัดผักตบชวาและวัชพืชเป็นหนึ่งในมาตรการขจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเปิดทางน้ำในฤดูฝน รวมถึงยังเป็นการรักษาคุณภาพน้ำในแม่น้ำและแหล่งน้ำให้อยู่ในค่ามาตรฐาน
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายว่า ผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำเป็นปัญหาที่รัฐบาลใส่ใจให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา พร้อมติดตามผลการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และในวันนี้สืบเนื่องจากการประชุมกำหนดแผนการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช เพื่อเตรียมรับน้ำหลากในฤดูฝนปี 2563 ได้มอบหมายให้ 4 หน่วยงาน โดยมีกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบพื้นที่ที่มีการสะสมของผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำสายหลักและแหล่งน้ำเชื่อมโยงตามรายงานการสำรวจของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) (GISTDA) 25 จุด ซึ่งจากการสำรวจของ GISTD พบการสะสมของผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำสายหลักและแหล่งน้ำเชื่อมโยงเพิ่มเติมในลุ่มน้ำภาคกลางและภาคตะวันออก 19 จังหวัด พบการสะสมของผักตบชวาและวัชพืช 128 จุด โดยมอบหมายให้ 4 หน่วยงานหลักรับผิดชอบทำงานร่วมกับภาคประชาชนเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน
รองนายกรัฐมนตรียังสั่งการให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจัดหาเรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานท้องถิ่นมีอุปกรณ์เครื่องมือในการดูแลแก้ไขปัญหาผักตบชวาในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง ไม่ให้ผักตบชวาและวัชพืชกีดขวางการไหลระบายของน้ำและป้องกันบรรเทาปัญหาน้ำล้นตลิ่งชันสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อยู่ริมน้ำและใช้เส้นทางสัญจรทางน้ำ สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บผักตบชวาด้วยเรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์ที่รัฐบาลสนับสนุน ขอให้จังหวัด กำชับให้จัดเก็บให้เป็นประจำ และรวบรวมรายงานผลการดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อประเมินผลและความคุ้มค่าการใช้จ่ายงบประมาณ ส่วนการใช้สารจุลินทรีย์กำจัดผักตบชวาและวัชพืชนั้น ขอให้คำนึงถึงระบบนิเวศ และความปลอดภัยของสัตว์น้ำ และแหล่งน้ำในระยะยาว ขอให้ทดสอบว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมถึงขอให้สร้างองค์ความรู้ถ่ายทอดสู่ประชาชนเพื่อนำมาช่วยกันกำจัดผักตบชวาและวัชพืช
ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรียังได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาและการนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ จากนั้นได้เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่กำจัดผักตบชวาและวัชพืช พร้อมกล่าวทักทายชาวชมรมคนริมน้ำและท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอสามพรานที่ได้นำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ตามที่รัฐบาลได้จัดสรรให้ท้องถิ่นที่ มาปฏิบัติและแก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำท่าจีน