ครูเยี่ยมบ้านนักเรียน หลังเรียนออนไลน์ไม่ได้ พบชีวิตสุดลำบาก ฐานะยากจน-ขาดแคลนอุปกรณ์
19 พ.ค. 2563, 10:43
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 พ.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางสาวภนิดา นพชำนาญ ผอ.รร.ชุมชนวัดขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เปิดเผยว่า หลังจากมีนโยบายการเรียนการสอนออนไลน์ แก่ นักเรียนทุกระดับ รร.ชุมชนวัดขันเงินเป็น รร.ระดับประถมศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ป.6 มีนักเรียนทั้งสิ้น 1,426 คน เป็นโรงเรียนประถมศึกษาที่ใหญ่ที่สุด ใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร มีนักเรียนกระจายอยู่หลายอำเภอในพื้นที่ติดต่อ อ.หลังสวน อาทิ อ.พะโต๊ะ อ.ทุ่งตะโก อ.ละแม และ นักเรียนจำนวนหนึ่งมีฐานะทางครอบครัวยากจนถึงยากจนมาก
ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด19 ได้ รร.ปิดการเรียนการสอน เป็นเวลานาน ต่อมาได้มีนโยบายให้มีการเรียนการสอน ออนไลน์ ทั้งในสื่อออนไลน์ ผ่าน โทรศัพท์ มือ แท็บเล็ต หรือ ผ่านทาง โทรทัศน์ดาวเทียม ในขณะที่ โรงเรียนมีความเป็นห่วง ความเป็นอยู่ของนักเรียนในสังกัดและครอบครัว จึงได้ทำโครงการ "หนูอยู่ไหนครูไปนั่น" เพื่อจะได้สำรวจความเป็นอยู่ของนักเรียนทั้งหมด จะได้นำมาวางแผนการเรียนการสอนออนไลน์ โดยให้คณะครูของโรงเรียน ออกไปพบนักเรียนถึงบ้านของนักเรียนในสถานที่ต่าง ๆ ทำให้ได้พบสภาพความเป็นอยู่ของครอบยครัวนักเรียนในหลายแบบ แต่ที่น่าเวทนา ก็คือครอบครัวของนักเรียนหลายสิบครอบครัว ที่อยู่ในสภาพยากจน จนถึงยากจนมาก
โดยพบที่ บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 7 ต.ชันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นครอบครัว ของนักเรียน ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 (ป.1)ชื่อ ดญ.กระแต อายุ 7 ปี ลูกสาวคนที่ 3 ของ นางจรรยา สุดภักดี อายุ 31 ปี กับ นายอนุชาติ ปิ่นจอม มีพี่สาวชื่อ ดญ.จ๋า อายุ 14 ปี เรียนชั้น มัธยมปีที่2 ที่รร.แห่งหนึ่ง และ ดญ.ใบเตย อายุ 10 ขวบ เรียนชั้นประถมปีที่ 4 ที่ รร.แห่งหนึ่ง โดยครอบครัวนี้มีฐานะยากจนมาก สภาพบ้านเป็นกระต็อบหลังคามุง ด้วยสังกะสี ยกพื้นสูงจากพื้นดินเพียงเล็กน้อย ในบ้านมีห้องเพียงห้องเดียว ที่ใช้สำหรับนอน ทั้ง 5 คน มุมหนึ่งใช้เป็นที่หุงข้าว ตั้งเตาถ่าน สภาพบ้านเอียงจนแทบจะพัง ส่วนห้องน้ำต้องใช้ผ้าเต้นท์มากั้นไว้พอจะปลดทุกข์ ได้เท่านั้น นายอนุชาติผู้เป็นพ่อมีอาชีพทำสวนปาล์ม ส่วนนางจรรยา ผู้เป็นแม่ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ที่ร้านค้าในตลาดหลังสวน ก่อนหน้าเกิดโรคโควิด19 มีรายได้ ทั้งครอบครัว วันละ 200-300 บาท เดือนละประมาณ 6,000 บาท ที่นำมาเลี้ยงชีวิตทั้ง 5 คน ซึ่งก็ต้องอดออมอย่างมาก แต่เมื่อเกิดโรคไวรัสโควิด-19 ร้านค้าในตลาดหลังสวนได้ปิดตัวลง ราคาผลปาล์ม ตกลงเหลือเพียง 1-2 บาท ทำให้ รายได้ลดลงเหลือเพียงวันละ 100 กว่าบาท ทำให้เกิดความลำบากอย่างหนัก
เมื่อคณะครูที่ลงไปเยี่ยมครอบครัวของนักเรียนพบ ครอบครัวดังกล่าว ถึงกับมีอาการสลดใจกับความยากจนของครอบครัวนักเรียนที่คาดไม่ถึงว่า นักเรียนที่ครูรักเหมือนลูกจะอยู่ในสภาพตกระกำลำบากอย่างนี้
นางสาวภนิดา นพชำนาญ ผอ.รร.ชุมชนวัดจันเงิน กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดการเรียนการสอนผ่านออนไลน์พบว่ามีการตอบรับจากนักเรียนไม่ถึง 50 % จึงจัดคณะครูออกเยี่ยมบ้านนักเรียน ในโครงการ "หนูอยุ่ไหนครูก็ไปถึง จึงพบความยากลำบากของนักเรียนจำนวนหนึ่ง มีทั้งบ้านที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีตู้เย็น ไม่มีทีวี จึงให้ครูเดินทางเข้ามาสอน ถึงบ้าน และพบว่า ในแต่ละบ้านมีความลำบากมาก ในช่วงการเกิดโรคระบาด โดยเฉพาะการที่จะให้ลูก ๆ ได้เรียนหนังสือ เพราะจะต้องใช้เงินตลอดเวลา ในขณะที่รายได้ลดลงจนถึงขั้น ไม่มีรายได้ บางวันไม่มีเงินซื้อข้าวสาร
จึงอยากให้สังคมได้ช่วยเหลือครอบครัวที่ยากลำบากเหล่านี้ ด้วย ครอบครัวน้องกระแตเป็นเด็กเรียนดีมาก อยากให้ช่วยเหลือ เพราะเห็นแล้วว่าการศึกษาเท่านั้นจะทำให้ชีวิตของคนเหล่านี้ดีขึ้น บ้านนี้มีลูกเรียน ถึง3 คน” ต่อมา คณะครูได้แจ้งไปยัง นายประกาศิต พระประสิทธิ์ นอภ.หลังสวนเพื่อนำความช่วยเหลือเบื้องต้น ด้วยถุงยังชีพ มายังครอบครัวนี้ก่อน ที่จะหาทางช่วยเหลือเพิ่มเติม ต่อไป ส่วนผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ นักเรียนของโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน สามารถ ส่งเงินไปช่วยเหลือได้ที่ โรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร นางภนิดา นพชำนาณ ผอ.รร. โทรศัพท์ 0817195797 บัญชี ธ กรุงเทพ 3170718138