ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่งโพสต์ว่า “ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณเป็นใครเก่งมาจากไหน ผมไม่เคยรู้จักคุณด้วยซ้ำ #ผมรู้แค่ว่าความปลอดภัยของลูกเมียผมต้องมาก่อน เพราะในรถไม่ได้มีผมคนเดียว มีภรรยาผม ลูกวัย 3 เดือน หลานวัย 7 ขวบ ผมไม่กล้าเอาไปเสี่ยงกับความคึกคะนอง ความเก่งของคุณหรอกครับ ขับรถกำลังจะกลับบ้านดีๆ ก็มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ # ไม่เคยมีเรื่องราวหรือขับปาดหน้ากันมาก่อนนะครับ # เหตุการณ์เกิดขึ้นตามคลิปเลยครับ ผมเคยดูแต่ในข่าวเคยเห็นแต่ในคลิป ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง # ฝากไว้ด้วยนะครับ # ครอบครัวผมปลอดภัยดี # พิกัดบ้านหนองดินแดงทางไปนาแก

 โดยมีคลิปรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้แต่งซิ่งคันหนึ่ง ขับส่ายไปมาลักษณะหาเรื่อง และเบรกเพื่อให้ชนท้าย หลังลงโพสต์มีคนกดไลก์ 3.1 พัน แสดงความคิดเห็น 1.7 พัน ส่วนใหญ่รุมประณามรถกระบะคู่กรณี ที่ขับรถไม่มีมารยาท พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาดำเนินคดี บางคอมเม้นต์ก็แสดงความคิดเห็นว่าอาจจะไม่ใช่คลิปฉบับเต็ม ก่อนหน้านี้อาจจะมีเหตุขับปาดกันไปปาดกันมา และแชร์ 4.4 พัน ครั้ง

ล่าสุด วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news เดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง พบกับ "คุณอ้อม" ครูโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ขณะให้นมกับลูกชายวัย 3 เดือน อยู่ในบ้านพักเขตเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมกับนำคลิปวีดีโอฉบับเต็มเปิดให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อคลายข้อสงสัยตั้งแต่ต้นกระทั่งจบ

คุณอ้อมเปิดเผยรายละเอียดว่า วันดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม เวลา 17.24 น. หลังจากสามีเลิกงานก็ขับรถออกมาจากที่ทำงาน ภายในรถมีลูกชายวัย 3 เดือน และหลานอายุ 7 ขวบ รวม 4 ชีวิต โดยวิ่งมาบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2033(นครพนม-นาแก) เพื่อกลับบ้านพักในตัวเมืองนครพนม พอผ่านสี่แยกบ้านหนองดินแดงพบรถกระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ขอบทางฝั่งซ้าย และขับถอยหน้าถอยหลัง สามีจึงบีบแตรไปหนึ่งครั้ง เพื่อเตือนว่ามีรถอยู่ข้างหลัง จากนั้นคนขับรถกระบะก็ลดกระจกข้างชูมือออกมาโบก จึงคิดว่าเขาโบกมือให้แซงขึ้นไป

ขณะขับรถกระบะวิ่งไล่จี้ด้านหลังแล้วบีบแตรยาว สามีจึงชะลอรถให้เขาแซงขึ้นไป ปรากฏว่ารถกระบะเริ่มออกอาการนักเลง วิ่งๆ ไปก็เบรกหวังให้สามีขับชนท้าย บางครั้งก็เบรกจอดสนิทอยู่กลางถนน ตนจึงเตือนสติสามีว่าใจเย็นๆ ในรถเรามีทั้งลูกและหลาน กระทั่งเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านพ้นไป

ตนและสามีจึงเดินทางไปยัง สภ.กุตาไก้ ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม เพื่อจะแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แต่ตำรวจไม่ยอมรับแจ้ง แม้บอกว่ามีคลิปจากกล้องหน้ารถเป็นหลักฐาน ซึ่งตำรวจนายนั้นนอกจากไม่ดูคลิปแล้ว ยังตอบว่าเหตุยังไม่เกิดจะรับแจ้งเหตุอนาคตไม่ได้  “หรือหากตนมาผิด สภ.ก็น่าจะบอกกัน กลับปฏิเสธและไม่แนะนำอะไรทั้งสิ้น แบบนี้จะฝากความหวังไว้กับใครได้” คุณอ้อม กล่าว