เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 15 พค.63 ที่ รพ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร หน่วยกู้ภัยพะโต๊ะ ตระเวนหาโลงศพ เพื่อนำมาใส่ร่างของ ดช.ธนดล โคตะบิน อายุ 1ปี 10 เดือน ก่อนจะนำร่างไปยังวัดฟาติมะ เพื่อปรึกษากับชาวบ้านที่ใจบุญในการจัดบำเพ็ญกุศลศพ ของ ดช.ธนดล หรือ น้องนดล  ที่เสียชีวิตในช่วงหัวค่ำจากการถูกต้นทุเรียนล้มทับ

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 15 พค.63 ที่  บ้านลางตาง หมู่ที่ 19 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เป็นหมู่บ้านที่อยู่บนภูเขาสูงท่ามกลางป่าขนาดใหญ่รอยต่อ จ.ชุมพร และ จ.ระนอง ห่างจาก ถนนสาย หลังสวน - ราชกรูด ร่วม 40 กม. เป็นสวนทุเรียน สวนมังคุดขนาด 40 ไร่  นางสาวศิริลักษ์ อายุ 22 ปี นายวรุฒ โคตะบิน  อายุ 28 ปี พ่อและแม่ ของ น้องนดล นางนุจรินทร์ โคตะบิน อายุ 48 ปี นายไสว โคตะบิน อายุ 52 ปี ย่าและปู่ ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 8 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ได้เร่งนำร่างของ ดช.ธนดล โคตะบิน อายุ 1 ขวบ 10 เดือน ในสภาพหมดสติไม่รู้สึก ส่ง รพ.พะโต๊ะ แต่เมื่อมาถึงมือแพทย์ พบว่าเสียชีวิตก่อนหน้านั้นแล้ว ทำเอา คนทั้ง 4 ถึงกับปล่อยโฮด้วยความเสียใจ

นางนุจรินทร์ ซึ่งเป็นย่าของ น้อง นดล เล่าว่า”ในช่วงเย็นของวันนี้ หลังจากเสร็จภารกิจในสวนทุเรียนของนางอำพัน ยุติมิตร อายุ50 ปี เจ้าของสวนทุเรียน สวนมังคุด คนในครอบครัวทั้งหมดได้พากันไปปีนต้นสะตอบนภูเขาใกล้สวนทุเรียน เพื่อเก็บสะตอมาทำอาหาร  น้องนดล บอกนางนุจรินทร์ ว่าปวดท้อง อึ  ย่าจึงพา น้องนดล ไปอึ ใต้ต้นมังคุด เมื่อเสร็จแล้ว ได้เดินจูงมือ น้องนดลจะตรงไปยังที่คนอื่นๆกำลังไปเก็บสะตอ เมื่อเดินมาได้สักพัก น้อง นดล พูดขึ้นตามประสาเด็กที่เริ่มหัดพูดว่า “ไปเอามือถือพ่อมาเล่น” ไม่ทันที่ย่าจะตอบว่าอะไร ได้เสียงต้นไม้หัก ดังลั่นป่า แล้วรู้สึกว่า ปลายนิ้วมือที่กำมือ น้องนดล หลานรักไว้ ถูกกระตุกอย่างแรง หันไปมอง พบว่า ต้นทุเรียนหมอนทองขนาดยาวกว่า 5เมตร ใหญ่เท่า1คนโอบ ซึ่งยืนตายซากริมทางเดินได้ล้มทับลงบนร่างของ น้องนดลอย่างแรง จนหน้าคว่ำลงกับพื้นดิน ได้ยินเสียงสำลักจากน้องนดล ย่าจึงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ  นางอำพันเจ้าของสวนรีบนำรถยนต์กะบะมานำร่างของน้องนดล  ส่ง รพ.พะโต๊ะที่ห่างไปจากจุดเกิดเหตุถึง 40 กว่า กม. แต่ น้องนดล แน่นิ่งไปก่อนที่รถจะออกจากสวนทุเรียน จึงเมื่อถึง รพ.พะโต๊ะแพทย์บอกว่า น้องนดลสิ้นใจแล้ว”

นางนุจรินทร์ และ นางสาวศิริลักษ์ ตกลงกันว่าจะนำศพของ น้องนดล กลับไปยัง จ.นครพนมบ้านเกิดเพื่อบำเพ็ญกุศลศพ แต่เมื่อได้ทราบค่าใช้จ่ายในการขนศพกลับไป จ.นครพนม ถึงกับเขาอ่อน เนื่องในครอบครัวมีเงิน เพียง 70 บาทเท่านั้น สร้างความสลดใจแก่ชาวบ้านที่ทราบเหตุการณ์ จึงพยายามพูดให้ ครอบครัวของน้องนดล จัดบำเพ็ญกุศลศพที่ วัดฟาติมะ ใน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร หลังจาก พ้นสถานการณ์โควิดแล้ว และมีเงินเหลือจึงค่อยนำกระดูกของน้องนดล กลับไปทำบุญที่บ้านเกิดอีกครั้ง  ทั้งหมดก็ตกลง แต่ ก็เกิดดราม่าอีกเมื่อไม่มีเงินซื้อโลงศพ และ เช่าโลงแอร์  ร้อนถึงหน่วยกู้ภัยพะโต๊ะ ที่ต้องไปขอโลงศพสำหรับศพไร้ญาติจากวัดแห่งหนึ่ง ใน อ.พะโต๊ะ และ ได้รับความเมตตาจากร้านให้เช่าโลงแอร์ให้ยืมโลงแอร์โดยไม่คิดเงิน รวมถึง นางอำพันเจ้าของสวนทุเรียนที่ออกค่าบำเพ็ญกุศลศพให้จำนวนหนึ่ง

นางนุจรินทร์  ย่าของน้องนดล เล่าว่า เป็น คนพื้นเพ จาก จ.นครพนม อาชีพทำนา ในปีนี้ได้เกิดความแห้งแล้งมาก จนต้นกล้าในนา ตายทั้งหมด จึงเดินทางมายัง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เมื่อ 11 วันที่ผ่านมา เจอกับนางอำพัน นำมาทำสวนทุเรียน ที่ หมู่ที่ 19 ต.พะโต๊ะที่เกิดเหตุ โดยให้อาศัยในกะท่อมทั้งครอบครัว ได้เริ่มทำงานให้กับนางอำพันบ้างเนื่องจากทุเรียนและมังคุดกำลังจะเริ่มออกผลและเก็บขายได้ จนมาเกิดเหตุการณ์ ต้นทุเรียนที่ยืนตายซากล้มทับ น้องนดลจนเสียชีวิต นางนุจรินทร์ บอกว่า ครอบครัว ของตัวเองได้นำเงินทั้งหมดไปกับการหว่านนาข้าว และ เดินทางมายัง จ.ชุมพร เพื่อรับจ้างทำงานไม่ทันที่จะได้ค่าจ้าง และเหลือเงินทั้งครอบครัวเพียง 70บาทเท่านั้น” นางนุจรินทร์ พูดทั้งน้ำตาที่คลอเบ้า เมื่อชาวบ้านที่ทราบเหตุการณ์ได้ยิน ถึงกับช่วยกันบริจาคเงินเพื่อทำบุญช่วยครอบครัวน้องนดลคนละเล็กละน้อยจะได้ ใช้ในการบำเพ็ญกุศลศพน้องนดล ด้วย สำหรับบัญชีธนาคารของ นส.ศิริลักษ์ แม่ของน้องนดล หมายเลข020118979481 ธนาคาร ธกส.