ทีมสัตวแพทย์ตรวจร่างกาย "มาเรียม" ทุกวัน และคอยเฝ้าระวังสุขภาพ
6 ก.ค. 2562, 14:03
ผู้สื่อข่าว onb news ทีมสัตวแพทย์จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร กลุ่มพิทักษ์ดุหยง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยังคงทำงานอย่างหนักในการร่วมกันดูแลอนุบาลมาเรียม ให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่างๆ รวมทั้งให้ร่างกายได้เจริญเติบโตแข็งแรงในแหล่งอนุบาลธรรมชาติซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของตัวเอง โดยเฉพาะทีมสัตวแพทย์และอาสาสมัครยังคงเร่งเพิ่มปริมาณนมและหญ้าให้แก่มาเรียม มากขึ้นตามลำดับ ส่งผลทำให้ร่างกายมาเรียม แข็งแรง แม้น้ำหนักจะยังน้อยและไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ทางสัตวแพทย์ได้ตั้งเป้าไว้ จึงต้องพยายามป้อนนม ป้อนหญ้าเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อวัน
นายสัตวแพทย์ปฐมพงษ์ จงจิตต์ นายสัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ทุกวันทางทีมสัตวแพทย์จะมีทำการตรวจร่างกายให้มาเรียม ทั้งการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ การฟังเสียงปอด การทำงานของลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร และดูว่ามาเรียม ร่าเริงหรือไม่ รวมทั้งการฝึกในการเจาะเลือด และสวนทวาร (สวนก้น) เพื่อที่จะเก็บตัวอย่างอุจจาระนำไปทำการตรวจ เพื่อนำมาประเมินว่าอาหารที่กินมีการย่อยสมบูรณ์หรือไม่ มีพยาธิเกิดขึ้นหรือไม่
ในส่วนของพัฒนาการมาเรียม ขณะนี้พบว่ามาเรียมเริ่มปรับตัวเองเข้ากับธรรมชาติได้ดีขึ้น เช่น มีการว่ายขึ้นลงตามน้ำขึ้นน้ำลง ไม่นอนเกยตื้นในเวลากลางคืนแล้ว หรือเมื่อเห็นคนพายเรือออกไป พอมาเรียม เห็น ก็จะว่ายน้ำเข้ามาหาเรือ และเวลาพาออกไปในแปลงหญ้า พบว่ามาเรียม เริ่มมีการกินเล็มหญ้าได้เองแล้วและใช้เวลาอยู่ในแปลงหญ้าได้นานขึ้น ขณะนี้มาเรียม กินเก่งขึ้น ต่อวันจะกินนมได้ไม่ต่ำกว่า 3,500 มิลลิกรัม กินหญ้าทะเลประมาณ 100-200 กรัม ส่วนน้ำหนักชั่งล่าสุดพบว่า อยู่ที่ประมาณ 29.50 กิโลกรัม และมีความยาว 120 เซนติเมตรเท่าเดิม ซึ่งความยาวจะขึ้นช้า เพราะต้องใช้เวลา ส่วนน้ำหนักขึ้นมาเล็กน้อย
นายสัตวแพทย์ปฐมพงษ์ กล่าวอีกว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แม้จะพบว่ามาเรียม น้ำหนักขึ้นช้าหน่อย แต่มีพัฒนาการในด้านบวก และต่อไปเมื่อระบบร่างกายปรับตัวได้แล้ว ก็เชื่อว่าน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ทางทีมสัตวแพทย์เป็นห่วงมากที่สุดขณะนี้คือ มรสุมใหญ่ จนเกิดความไม่ปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพราะการทำงานครั้งนี้จะหลักยึดคือ สัตว์ปลอดภัย คนปลอดภัย และต้องทำงานได้ด้วย ส่วนจิตอาสาที่ได้รับบาดเจ็บจากปลากระเบนตำเท้า อาการปลอดภัยแล้ว และพร้อมจะกลับมาทำงานอีกครั้ง