สาววัย 32 ปี หันมาทำ "บุหลันดั้นเมฆ" ขนมโบราณ ตกทอดจากรุ่นยาย เปิดขายออนไลน์
10 พ.ค. 2563, 14:51
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางสาวพัชรพร สวัสดิ์ศรี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149/131 หมู่ 11 ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่เปิดขายขนมออนไลน์มาเป็นระยะเวลา 7 ปี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเอง ทำงานประจำ และทำขนมขายด้วย เนื่องจากที่บ้านมีความรู้ ในเรื่องการทำขนมไทย เพราะในอดีต คุณยายทำขนม ไทย ขาย และตกทอดมาสู่คุณแม่ โดยตนเองก็ซึมซับ ในเรื่องการทำขนมไทยจากคุณยายและแม่ จึงไม่อยากให้ วิชาความรู้ ในเรื่องการทำขนมไทย เลือนหายไป เพราะนับวันขนมไทยบางชนิดบางอย่างเด็กรุ่นใหม่จะไม่ค่อยรู้จัก อย่างน้อยการทำขนมไทยก็เป็นวิชาความรู้ที่สามารถนำไปทำมาหากินได้ โดยตนเองก็พยายามให้ลูกฝาแฝดทั้งสองซึ่งเป็นผู้หญิงเรียนรู้ และให้ลูกรู้จักการทำขนมไทยไปด้วย
นางสาวพัชรพร กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองมีครอบครัว มีลูกก็หยุดการทำขนมไประยะหนึ่งเนื่องจากไม่มีเวลา เมื่อลูกโตไปโรงเรียนได้ จึงคิดที่จะใช้เวลาในระหว่างที่เลี้ยงลูก ไปทำงานหารายได้เสริม โดยเลือกที่จะทำขนมไทยขายออนไลน์ โดยขนมไทยที่ทำขายจะทำในจำนวนไม่มาก ตามกำลังที่ตนเองและแม่ สามารถทำได้ ขนมที่ทำ จะมีขนมถั่วแปบ ขนมกล้วย ขนมมันม่วง ขนมฟักทอง ขนมโคกะทิสด ขนมใส่ไส้ บัวลอยนมสด มะพร้าวอ่อน และที่ขาดไม่ได้ คือ ขนมบุหลันดั้นเมฆ ที่ใครๆ เห็นก็ต้องถาม
โดยนางสาวพัชรพร กล่าวต่อว่า ขนมบุหลันดั้นเมฆนั้น ให้เราจิตนาการถึงน้ำทะเลสีครามที่เวลากลางคืนพระจันทร์เลื่อนลอยมาตกกระทบน้ำ เราก็จะเห็นเงาของพระจันทร์ กับน้ำทะเลสีคราม ขนมบุหลันดั้นเมฆเป็นขนมโบราณที่น้อยคนนักจะรู้จัก และตนเองเห็นว่าขนมบุหลันดั้นเมฆนั้นมีความน่าทาน และหากเรานำมาทำขาย ปรับปรุงให้ดูน่าทานมากยิ่งขึ้นแต่ยังคงรสชาติแบบเดิมๆ ไว้ มันน่าที่กลับมาเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในยุคเราอีกครั้งได้
“ซึ่งขนมบุหลันดั้นเมฆนั้น เป็นขนมโบราณ สมัยรัชกาลที่ 2 ที่ปัจจุบันหาทานได้ยากมาก โดยขั้นตอนกระบวนการทำ ไม่ได้แตกต่างจากขนมถ้วย ที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ มากนัก และวัตถุดิบ ในการทำ ไม่ได้ยุ่งยาก โดยมีขั้นตอนและส่วนผสม โดยคือขั้นตอนแรก จะนำดอกอัญชันมาต้ม เพื่อที่จะได้สี ของดอกอัญชัน เมื่อได้น้ำดอกอัญชันแล้วเทคนิค ที่จะทำให้น้ำดอกอัญชัน มีสีที่เป็นสีคราม คือการนำเอาน้ำมะนาว เพียงเล็กน้อย ใส่ลงไป ก็จะได้สี ฟ้าคราม แต่หากไม่ใส่ ก็จะได้สีฟ้าอ่อนๆ หลังจากนั้น ก็จะนำน้ำดอกอัญชันที่เตรียมไว้ ผสม กับแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าว แป้งมัน และน้ำตาลทราย เพียงเล็กน้อย ให้มีความหวานแต่ไม่มาก คนจนแป้งละลาย เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้น ก็จะนำเอาถ้วย เป็นถ้วยเล็กๆ ที่แม่ค้าทำขนมจะเรียกว่า ถ้วยตะไล นำไปตั้งบนซึ้งนึ่งขนม โดยจะตั้ง จนน้ำเดือด เพื่อให้ถ้วยมีความร้อน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เพื่อไม่ให้ขนมติดถ้วยเวลาเอา และถ้วยที่ใช้รวมถึงซึ้งนึ่งขนมนั้นเป็นของรุ่นคุณยายสมัยคุณยายทำขนมขาย” คุณพัชรพร กล่าว
สำหรับขั้นตอนในการทำขนม เมื่อตั้งจนถ้วยมีความร้อน ก็จะหยอดแป้ง ที่เตรียมไว้โดยจะต้องรีบหยอด ไปเช่นนั้น หน้าของขนม จะไม่สวย และหยอดไส้สังขยาลงไปยาก เมื่อหยอดแป้งเรียบร้อย ก็จะทำการปิดฝา ใช้เวลานึ่ง ประมาณ 10 นาที หลังจากครบเวลาเรียบร้อย ก็จะเปิดฝา สิ่งสำคัญ ในการเปิดฝาหม้อซึ้งจะต้องรีบเปิดให้เร็ว เพื่อไม่ให้น้ำหยดลงไปในขนม เพราะจะทำให้หน้าของขนม ไม่สวยงาม
หลังจากนั้น จะเป็นขั้นตอน การหยอดไส้สังขยา ซึ่ง ส่วนผสม ของการทำสังขยา ก็จะมีหัวกระทิ ไข่แดงเป็ดไข่แดงไก่ น้ำตาลโดยจะใช้ไข่แดงเป็ดมากกว่าไข่แดงไก่ เพราะไข่แดงเป็ด มีความเหนียวข้นมากกว่า เมื่อนำส่วนผสมมาตีให้เข้ากันได้ส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว จึงนำมาหยอดบน แป้งที่นึ่งเรียบร้อยแล้วโดยในการหยอดต้องใช้เวลา ให้เร็ว เช่นเดียวกับการหยอดแป้ง
โดยนางสาวพัชรพร และคุณแม่ กล่าวอีกว่า ในสมัยโบราณ ในการหยอด สังขยา ลงไปในแป้ง จะเป็นเหมือนการเสี่ยงทาย หากใครหยอดออกมาได้สวยงาม นั่นหมายถึง ชีวิต จะมีความ สวยงาม ราบรื่น เช่นเดียวกับหน้าขนม แต่หากใครหยอดหน้าขนม แล้วไม่สวยงาม ชีวิต ก็จะเป็นเช่นเดียว กับหน้าขนม คือ จะไม่สวยงามและราบรื่น ซึ่งในการทำนายดังกล่าว ก็จะทำให้ คนที่หยอดขนม จะมีความตั้งใจหยอดขนม ให้ออกมาสวยงาม เพื่อ อยากให้ชีวิตตนเอง มีความสวยงาม ตามคำทำนาย
หลังจากหยอดสังขยาเรียบร้อยแล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ก็ยกขึ้นมาตั้งให้เย็น เพื่อรอที่จะแคะขนมออกจากด้วยเพื่อส่งให้กับลูกค้า โดย 1 กล่องจะมี 4 ชิ้น ขายในราคากล่องละ 25 บาท ซึ่งหากใครสนใจ ขนมสดใหม่วัตถุดิบธรรมชาติไร้สารปนเปื้อน ราคาเริ่มต้น 5-35 บาท ขนมไทยใครได้กินก็ติดใจ ลูกค้าเลือกจัด set ขนมตามความต้องการ ในราคาย่อมเยาไร้สารกันบูด รับจัดตามงบประมาณของลูกค้า สามารถทักแชท id line = maemay13 หรือที่เบอร์ 064-7494162 และหากใครอยากเห็นหน้าตาขนม สามารถเข้าไปดูได้ที่เพจ หอมหวาน By.Mayki. ขนมไทยที่มีเคล็ดลับในการทำมากมายและที่สำคัญแต่ละขั้นตอน ขนมแต่ละอย่างต้องใช้เวลา และใส่ใจในทุกๆ ขั้นตอน เพราะฉะนั้นอยากให้คนรุ่นใหม่ทานขนมไทย รู้จักขนมไทยให้มากขึ้นและช่วยกันสืบทอดความรู้ไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป