โฆษกรัฐบาล ยืนยัน การผ่อนคลายมาตรการในระดับหนึ่งเพื่อให้ประชาชนปรับตัว
1 พ.ค. 2563, 13:13
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การผ่อนคลายมาตรการล๊อคดาวน์ หลังเข้าสู่เดือนพฤษภาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019(โควิด-19) หรือ ศบค. จะเป็นผู้กำหนดมาตรฐานกลาง เพื่อให้ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าราชการจังหวัดอื่นๆ ไปกำหนดรายละเอียดออกเป็นคู่มือการปฏิบัติของแต่ละพื้นที่สิ่งที่สำคัญ คือ การออกมาตรการการปฏิบัติรายจังหวัด จะเข้มข้นกว่ามาตรฐานกลางได้และต้องยึดปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก
สำหรับกรณีร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ยังสามารถซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้นั่งทานในร้าน เพราะ ศบค. ยังไม่ได้มีการผ่อนปรน โดยขอให้รอการพิจารณาในรอบถัดไป ส่วนร้านอาหารนอกห้างสรรพสินค้า ขอให้ดูคู่มือการปฏิบัติจากจังหวัดของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งในพื้นที่จะต้องมีชุดเจ้าหน้าที่เข้าไปสุ่มตรวจในทุกกิจกรรม และประเมินความปลอดภัย เช่น พนักงานเสิร์ฟต้องมีมาตรการความปลอดภัย เว้นระยะห่างตามที่กำหนด มีมาตรฐานการทำความสะอาด หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดก็จะมีการตักเตือน ถ้าไม่ปรับปรุงก็จะมีมาตรการดำเนินการต่อไป ขณะที่ร้านตัดผม ยังสามารถทำได้ แต่การตัด สระ และไดร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่อยู่ในร้านนานเกินไป ยังไม่สามารถทำสีผม หรือ กิจกรรมอื่นที่ใช้เวลานานเกินไป ขอให้ประชาชนอดใจรอไม่นาน หากทุกอย่างดีขึ้น ก็จะขยายประเภทกิจกรรมให้ค่อยๆ ผ่อนคลาย
ส่วนตลาดสด ตลาดนัด หรือแผงลอย ไม่ได้กำหนดประเภทสินค้า แต่ต้องมีการเว้นระยะ มีจุดตั้งเจลล้างมือและจัดจุดคัดกรอง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่าการควบคุมต้องมี 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 จากส่วนกลาง ก็คือ จาก ศบค. กำหนดด้วยมาตรฐานกลาง ระดับที่ 2 จากส่วนประเมิน คือ การสุ่มตรวจ และระดับที่ 3 คือระดับพื้นที่ ที่ต้องสอดประสานกันจะได้ไม่เกิดความผิดพลาด พร้อมเน้นย้ำว่า ขณะนี้ถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการในระดับหนึ่งเพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัว แต่ต้องเป็นการค่อยๆ ผ่อนปรน เพราะหากปลดล๊อคทันทีอาจทำให้เกิดการระบาดกลับมาอีก ทั้งนี้เชื่อว่าหากสถานการณ์ดีขึ้น จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่เพิ่มขึ้นจนถึงในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เชื่อว่า จะเป็นสัญญาณที่เป็นบวก ส่งผลให้เกิดการผ่อนปรนมากขึ้น