ไทย-สวิส หนุนร่วมมือทางเศรษฐกิจ ยินดีแลกเปลี่ยนการวิจัยรับมือโควิด-19
30 เม.ย. 2563, 19:25
วันนี้ ( 30 เม.ย.63 ) นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (H.E. Mrs. Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีต้อนรับในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ และยินดีที่ไทยและสมาพันธรัฐสวิสมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เป็นมิตรมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปีหน้าจะครบรอบ 90 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน มีความมุ่งหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าว
ขณะที่พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า ไทยยินดีแลกเปลี่ยนด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการเรียนรู้ด้านมาตรการรับมือต่อสถานการณ์ดังกล่าวกับทางสมาพันธรัฐสวิส นอกจากนี้ยังแสดงความยินดีกับความสำเร็จของรัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสในโครงการ flying home เพื่ออพยพชาวสวิสจากทั่วโลกกลับสมาพันธรัฐสวิส ขณะที่เอกอัครราชทูตสวิสขอบคุณรัฐบาลไทยที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ และเมื่อสถานการณ์ผ่านพ้นไป สิ่งแรกที่ให้ความสำคัญคือการฟื้นฟู ส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ และระหว่างภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น
โดย เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบหารือ และยินดีในความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะระดับประชาชนกับประชาชน ซึ่งไทยเป็นประเทศที่สวยงาม เป็นปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวสวิสมาท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ ได้แสดงความยินดี และหารือแลกเปลี่ยนประเด็นการรื้อฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA)
ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะร่วมพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่สมาพันธรัฐสวิสเป็นคู่ค้าลำดับต้นของประเทศไทย และขอบคุณที่สมาพันธรัฐสวิสนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 120 ในปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังมีช่องทางจะเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจระหว่างกันได้อีก และขอบคุณภาคเอกชนสมาพันธรัฐสวิสที่มีความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศไทย โดยไทยยินดีต้อนรับการลงทุนของสมาพันธรัฐสวิสในประเทศไทย และในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมขอบคุณที่รัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสดูแลนักลงทุนไทยในสมาพันธรัฐสวิสเป็นอย่างดี นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยินดีที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะจัดทำความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการยอมรับใบอนุญาตขับรถภายในประเทศระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิส