ชาวบ้านมึน ผญบ.แจ้งลูกบ้านเสียชีวิต เตรียมเบิกเงินฌาปนกิจ ญาติร้องหลานยังอยู่
30 เม.ย. 2563, 16:25
วันที่ 30 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าผู้ใหญ่บ้านมีพฤติกรรมทุจริต แจ้งตายลูกบ้านตัวเอง แทนญาติ แล้วพยายามเบิกเงินฌาปนกิจศพร่วม 80,000 บาท อยากให้มาช่วยหาความกระจ่าง เพราะร้องเรียนมานานร่วม 5 เดือนเรื่องเงียบ เกรงว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน
จากการตรวจสอบที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ตูมใหญ่ พบนายต่วน ดีชัยรัมย์ อายุ 59 ปี เล่ากับผู้สื่อข่าวว่า หลานตัวเองชื่อนายสมเกียรติ บริสุทธิ์ อายุ 51 ปี พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ออกจากบ้านไปทำงานอยู่กับญาติที่ จ.ระยอง เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยกลับบ้าน ญาติทางบุรีรัมย์ คิดเสมอว่าอยู่ญาติกับที่ จ.ระยอง
กระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้มีคณะกรรมชมรมฌาปนกิจศพผู้สูงอายุตำบลตูมใหญ่ มาเก็บเงินค่าศพๆละ 50 บาท เมื่ออ่านดูใบเสร็จรับเงินพบว่าผู้ตายคือนายสมเกียรติ ซึ่งเป็นหลานตัวเองที่ออกจากบ้านไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ผู้ที่แจ้งว่าหลานตัวเองเสียชีวิตคือนายสมศักดิ์ พรภิญโญยิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งที่ครอบครัวและญาติไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าหลานตัวเองเสียชีวิตตอนไหน และได้รับคำตอบจากผู้ใหญ่บ้านในเวลาต่อมาว่า มีคนข้างบ้านผู้ใหญ่บ้านแจ้งมาว่า นายสมเกียรติ เสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางไปอำเภอเพื่อแจ้งตายแล้วคัดออกจากทะเบียนบ้านทันที จึงยอมรับไม่ได้ไปสอบถามญาติ ทางญาติได้ไปร้องที่ อ.คูเมือง จนกระทั่งผู้ใหญ่บ้านกลับไปแก้เอกสารใหม่ให้ผู้ตายฟื้นกลับมามาชีวิต (ในเอกสาร) นายต่วน เล่าด้วยว่า การเสียชีวิตของคนในตำบลตูมใหญ่ ที่เข้าเป็นสมาชิกชมรมฯ จะได้รับเงินประมาณ 80,000 บาทต่อศพ แต่ญาติยังไม่ได้รับเงิน ถึงตอนนี้ผ่านมาร่วม 5 เดือนเรื่องก็เงียบหายไป
สอบถามนายสมศักดิ์ พรภิญโญยิ่ง กล่าวว่า ตอนนั้นทราบข่าวจากญาติว่า นายสมศักดิ์ ได้เสียชีวิตไปแล้ว เพราะหายสาบสูญไป ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านและยอมรับว่าสับเพล่า เดินทางไปแจ้งตายด้วยตัวเองโดยไม่สอบถามใคร ส่วนการนำเอาชื่อนายสมเกียรติ เข้ามาเป็นสมาชิกชมรมฯ เป็นความคิดของภรรยาเอง
ด้าน ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตอนนั้นนายสมเกียรติ ถือว่าไม่มีญาติ เพราะพ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว และนายสมเกียรติ ได้มาคุยกับตนว่า อยากให้เอาชื่อเข้าเป็นสมาชิกชมรมฯด้วย “ถ้าผมตายไปแล้วจะได้มีเงินทำศพให้ผม” ตนจึงทำให้ และเป็นผู้จ่ายเงินค่าศพ ๆ ละ 50 บาทหากสมาชิกเสียชีวิตมาโดยตลอด 10 ปี และยอมรับในสัญญาระบุให้ตนเองเป็นผู้รับผลประโยชน์หากนายสมเกียรติ เสียชีวิต แต่สุดท้ายตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงิน 80,000 บาท เป็นค่าปลงศพจากชมรมฯแต่อย่างใด เพราะได้มีการแก้ไขในเอกสารไปแล้วว่านายสมเกียรติ ยังมีชีวิตอยู่ในทะเบียนบ้าน