"หนุ่มเวรเปล" กดเงินป้าฟอกไต วอนสังคมอย่าพึ่งใช้ศาลเตี้ยตัดสิน สาบาน! เอาไปจริงให้ครอบครัวล่มจม
24 เม.ย. 2563, 18:20
ภรรยาพนักงานเปลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ป้าป่วยติดเตียงวัย 54 ปี วานให้ไปกดเงินตู้ ATM แล้วเงินในบัญชีหายไป 5 พัน ถึงกับร่ำไห้ หลังจากถูกสังคมประณามให้ครอบครัวเสียหายเพราะไม่ได้เอาเงินป้าไป ขณะเจ้าตัวกล้าสาบานถ้าเอาเงินไปให้ครอบครัวล่มจม ยืนยันวันนั้นป้าให้ไปกด 5 พัน เมื่อกดเงินไม่พอจ่าย วอนตำรวจเร่งสืบหาข้อเท็จจริง ระบุตู้ ATM เคยมีปัญหา
วันที่ 24 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พนักงานเปลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง อายุ 34 ปี ชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พร้อมภรรยาเป็นพนักงานในโรงพยาบาลเดียวกัน ได้ออกมาระบุหลัง สามีตกเป็นผู้ต้องสงสัยเอาบัตร ATM ของ น.ส.สุนันท์ อายุ 54 ปี ชาว ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง ผู้ป่วยติดเตียง ไปกดเงินให้ตามคำขอของ นางสุนันท์ แล้วเงินในบัญชีหายไป 5,000 บาท
ภรรยาของพนักงานเปล กล่าวว่า หลังตกเป็นข่าว ครอบครัวตกเป็นจำเลยสังคมทันที ทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน หรือหลักฐานการกระทำผิดของสามี ตนในฐานะที่ทำงานแผนกประชาสัมพันธ์ รู้สึกหมดกำลังใจ หลังเกิดเหตุไปพบพนักงานสอบสวนหลายครั้ง เพื่อให้เร่งคลี่คลายคดี และอยากจะวอนสังคมอย่าพึ่งด่วนตัดสินแล้วมากล่าวโจมตี
ด้านพนักงานเปล อายุ 34 ปี ผู้ถูกกล่าวหา เล่าว่า วันนั้นป้าสุนันท์ ให้ตนเอาบัตรไปกดที่ตู้ ATM จริง โดยป้าระบุให้ไปกดเงินจำนวน 5,000 บาท โดยไปกดที่ตู้ของธนาคารไทยพาณิชย์ แบบกดด่วน โดยไม่ตรวจสอบยอดเงิน เมื่อกดเรียกจำนวนเงิน 5,000 บาท ตู้ฯ ระบุ ”ยอดเงินในบัญชีไม่พอจ่าย” จึงไปกดตู้ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งอยู่ข้างกัน เมื่อตรวจสอบยอดเงินในบัญชี พบว่ามีเงินเหลือเพียง 1,097 บาท จึงเดินกลับไปหาป้าแจ้งว่า ”เงินมีเพียงพันเดียว”
จากนั้นลุงจึงเดินมาด้วยกันแล้วไปกดดูพบว่ามีเงินตามที่ตนแจ้ง จึงกดมา 1,000 บาท หักค่าทำเนียม 10 บาท เหลือเงินในบัญชี 87 บาท จากนั้นก็ไปทำงานตามปกติ
พนักงานเปล กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักทางด้านสังคม และกล้าสาบานได้ว่า ตนไม่ได้เอาเงินของป้าไป ถ้าเอาไปขอให้ครอบครัวไม่มีความสุข ให้มีอันเป็นไป จึงอยากจะวอนสังคมอย่าพึ่งใช้ศาลเตี้ยตัดสิน และอยากวิงวอนให้ตำรวจ เร่งสืบหาข้อเท็จจริงให้เร็ว เพื่อคลี่คลายปัญหาครอบครัวอยากจะอยู่อย่างมีความสุข ทั้งนี้เงินที่หายไปตนไม่โทษใคร เท่าที่ทราบตู้ ATM ตู้นี้เคยมีปัญหามาแล้ว