บรรยากาศบนชายหาดเฉวง อำเภอเกาะสมุย  ภายหลังเจ้าหน้าที่นำป้าย เตือนห้ามรวมกลุ่ม หรือมั่วสุม หรือทำกิจกรรมใดๆ บนชายหาด เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ชายหาด และน้ำทะเลสุดสวย แต่ไร้นักท่องเที่ยว เหลือแต่แม่ค้าเร่ขายส้มตำ แม่ค้ากล่าวหากไม่ออกมาเสี่ยงเดินเร่ขายก็อดตาย เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาล ซึ่งได้ลงทะเบียนไปนานแล้ว  หากได้เงินดังกล่าวมาจะนำไปใช้หนี้ และไว้สำหรับจ่ายค่าบ้านเช่า

 

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณศาลาคอย ชายหาดสาธารณะหาดเฉวง หมู่ 2 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงสถานการณ์เกิดวิกฤตแพร่ระบาดของไวรัสโคิด-19 โดยบริเวณชายหาด พบป้ายขนาดใหญ่ มีข้อความว่า “ขอความร่วมมือ” “งดรวมกลุ่มเล่นน้ำ ทะเล หรือกิจกรรมรวมกลุ่มบริเวณชายหาด เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19” โดยมีข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ประกาศโดยเทศบาลนครเกาะสมุย” 

โดยพบว่าในวันนี้ บริเวณชายหาดเฉวง ซึ่งเป็นชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะสมุย มีความยาวหลายกิโลเมตร ชายหาดสะอาด หาดทรายขาว สวยเป็นแนวยาว ขณะที่ในทะเลมีน้ำทะเลเป็นสีครามสวย พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ตกค้างอยู่บนเกาะสมุย เมื่อก่อนหน้านี้ และยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ ได้ออกมานอนอาบแดด อยู่บนชายหาด และบางรายลงไปเล่นน้ำทะเล เพื่อผ่อนคลายความร้อน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด จากการตรวจสอบพบว่า นักท่องเที่ยว อยู่แยกกันเป็นคู่ๆ ไม่มีการรวมตัวหรือจับกลุ่มกันแต่อย่างใด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่นอนอาบแดด และที่เล่นน้ำทะเล สามารถนับจำนวนได้มีประมาณไม่ถึง 20 คน ที่แยกกันอยู่ เป็นคู่ๆ มีระยะการเว้นห่างกัน ที่นอนอาบแดดประมาณ 2 เมตร 

จากการสอบถามนักท่องเที่ยวสาวรายหนึ่งสัญชาติอังกฤษ กล่าวว่า การเดินทางมาอยู่บนเกาะสมุย ตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ เนื่องจากไม่มีเครื่องบินจากเกาะสมุย และจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต่อไปยังประเทศอังกฤษได้ จึงต้องจำเป็นอยู่ต่อที่เกาะสมุย และเข้าใจกับมาตรการ การควบคุมโรคจากประเทศไทยดี จึงไม่ได้รวมกลุ่มกันแต่อย่างใด และเข้าใจต่อสถานการณ์ดี หากสถานการณ์คลี่คลายดีแล้ว หรือมีการเปิดเส้นทางบินเมื่อไหร่ ก็จะเดินทางออกจากเกาะสมุยทันที และยังกล่าวอีกว่า บรรยากาศชายทะเลที่เกาะสมุย บรรยากาศดีสวย หากมีโอกาสจะเดินทางมาท่องเที่ยวอีก 

 

ขณะที่ นางสาวทวิษา ทองรักษ์ อายุ 42 ปี เป็นแม่ค้าหาบเร่ขายส้มตำไก่ย่าง บริเวณชายหาดเฉวง มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ได้เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ต้องเสี่ยงออกมาเดินเร่ขาย บริเวณชายหาดเฉวง หากไม่ทำก็อดตาย เนื่องจากเศรษฐกิจแย่ลงเรื่อยๆ ภายหลังจากเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าอาหารส้มตำไก่ย่างได้เหมือนเมื่อก่อน แม้ว่าลดปริมาณวัตถุดิบลง แต่ก็ยังขายไม่ได้ แต่ก็ต้องสู้ เนื่องจากไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ ขณะเดียวกันก็ต้องเช่าบ้านอยู่ และรายจ่ายมีจำนวนมากกว่ารายได้ ทุกอย่างกระทบไปหมด ชักหน้าไม่ถึงหลังเช่นกัน และส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มาเดินบนชายหาดส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวที่อาศัยมีบ้านพักอยู่บนเกาะสมุย เพียงแค่มาเดินเล่น แล้วก็ผ่านไป หรือบางรายก็มาออกกำลังกาย 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามถึงเงินเยียวยา จากรัฐบาล 5,000 บาท ได้ลงทะเบียนหรือไม่ นางสาวทวิษา แม่ค้าเร่ขายส้มตำบนชายหาดเฉวง กล่าวว่า เงินเยียวยาจากรัฐบาล 5,000 บาท ก็ยังไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตนได้ลงทะเบียนไปนานแล้ว แต่พอตรวจสอบไปพบว่าข้อมูลโชว์คำว่า “รอตรวจสอบสถานะ” ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ หากได้เงินจำนวน 5,000 บาท จากรัฐบาลจะนำเงินไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมา และส่วนที่เหลือก็จะนำไว้ต่อยอดประกอบอาชีพ และรวมทั้งค่าเช่าบ้าน แต่แนวโน้มไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่แต่ก็ยังคงมีความหวังรออยู่