"เด็กชายวัย 14 ปี" หายออกจากบ้าน เจออีกทีกลายเป็นศพ ผูกคอดับใต้ต้นไม้ใหญ่
13 เม.ย. 2563, 15:10
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 นางซ่อนกลิ่น แก้วเรือง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 ม.2 ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พร้อมกับสามีและญาติ ได้ออกตามหาลูกชายคนโต ด.ช. เอ (ขอสงวนนาม) อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นเด็กสมาธิสั้น ยังเป็นนักเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนท่ามะปรางวิทยา ได้หายออกจากบ้านไป เมื่อเวลา 18.30 น. จึงได้ออกตามค้นหากัน เป็นเวลา 1 ชั่วโมงกว่า แต่ก็ไม่พบ จึงได้รีบโทรแจ้งไปยัง ร.ต.อ ประสงศ์ พยัคฆา เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี และประสานงานไปยัง มูลนิธิปอเต็กตึ้ง จุดแก่งคอย ให้มาช่วยค้นหา เด็กคนดังกล่าว ที่บริเวณรอบๆ หมู่ 2 จนถึงเวลา 22.30 น. ได้พบเด็กชายคนดังกล่าว ผูกคอตายอยู่ใต้ต้นไม้ ใช้เชือกไนล่อนสีฟ้าผูกคอมัดกับกิ่งต้นไม้ใหญ่ ห้อยโตงเตง สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าแตะ 1 คู่ วางอยู่ จึงได้นำตัวลงมา สภาพศพ ตัวซีดแข็ง มีรอยช้ำอยู่ที่คอ ตรวจในบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆทั้งสิ้น คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ทางญาติไม่ติดใจเอาความ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช มาวันนี้ชันสูตรเสร็จแล้ว แพทย์ลงความเห็นว่า ขาดอากาศหายใจ จึงได้นำศพมาบำเพ็ญกุศลที่วัดท่ามะปราง ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นเวลา 2 วัน
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ความว่า เด็กชายคนดังกล่าว ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เวลา 18.30 น. ซึ่งเป็นเด็กสมาธิสั้น แต่ยังไม่รู้สาเหตุที่เด็กคนดังกล่าวไปผูกคอตายด้วยสาเหตุอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้หาหลักฐานและสอบถามชาวบ้าน หาหลักฐานในกรณีที่เด็กผูกคอตายดังกล่าว
ส่วนมีชาวบ้านบางคน ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ว่า เด็กคนดังกล่าวเป็นเด็กสมาธิสั้น น่าจะผูกคอตายทำท่าเล่นๆก็เป็นได้ จึงพลาดท่า หรืออาจจะคิดแบบคนที่สมาธิสั้น และไม่ได้คิดอะไร จึงได้ผูกคอตายโดยที่ไม่รู้ตัว
จากการบอกเล่าของนาง ซ่อนกลิ่น แก้วเรือง (แม่) เล่าให้ฟังว่า น้องหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เวลา 18.30 น. ซึ่งตอนนั้นตนเองออกไปกดน้ำข้างนอกที่ร้านค้า เห็นน้องแต่งตัวหล่อผิดปกติ น้องได้ถามว่า แม่ไปไหน นี่เป็น 3 คำสุดท้ายที่ได้คุยกับลูก ตนได้บอกกับน้องว่า ไปกดน้ำ และพอกลับเข้ามาในบ้านก็ไม่เจอน้องอีกเลย ก่อนตนจะออกไปไม่มีเหตุหรือรางสังหรณ์อะไรบอกเลย น้องยังร่างเริงและเล่นเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป แฟนของตนจึงได้ถามว่า ลูกอยู่ไหน เพราะคิดว่าลูกไปกับตน จึงได้ช่วยกันออกตามหา ส่วนแฟนก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ตะเวนหา ส่วนตนเองก็หาบริเวณแถวบ้านและตะโกนเรียกลูก แต่ก็ไม่เจอ จนมีคนที่ช่วยตามหามาเจอ ตอนเวลา 22.00 น. และมาบอกตน ว่า ลูกผูกคอตายอยู่ใต้ต้นไม้ ตนกับแฟนจึงได้รีบพากันไปดู ก็นึกว่าลูกยังไม่เป็นอะไร แต่เห็นลูกห้อยอยู่ที่ต้นไม้ แฟนตนจึงได้รีบไปอุ้มยกขาขึ้น และได้นำตัวลงมา สภาพคือ น้องตัวแข็งและเสียชีวิตแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจลงความเห็นว่า น้องผูกคอตาย ส่วนสาเหตุการผูกคอตายของลูก ตนเองไม่รู้เลย เพราะน้องไม่มีปฏิกิริยาอะไรให้เราเห็นเลย ตัวน้องเป็นโรคสมาธิสั้น ตั้งแต่ 7 ขวบ ต้องรักษาอย่างเดียว และทุกๆ 3 เดือนต้องไปรับยาที่โรงพยาบาลสระบุรี น้องก็ยังทานยาตามปกติ ร่าเริง เล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆ ตัวน้องเคยขาดยาแต่ไม่เคยคิดสั้น ร่าเริงและเล่นเหมือนเดิม แต่จะเล่นรุนแรงขึ้นแค่นั้น ไม่มีการทะเลาะกับเพื่อนฝูง เพราะน้องเล่นอยู่กับน้องๆแค่ 3 คน ซึ่งเป็น หญิง 1 ชาย 1 รวมแล้วตนเองมีลูก 3 คน ส่วนคนที่เสียชีวิตเป็นคนโต และไม่ได้ไปเล่นกับคนอื่นเลย จึงไม่รู้สาเหตุว่าน้องไปผูกคอตายด้วยสาเหตุอะไร ตนก็ยังไม่เข้าใจ ส่วนการตายของลูกตนไม่ติดใจเอาความ แต่ข้องใจตรงที่ว่าลูกทำแบบนั้นทำไม ทำไมไม่มาบอกและมาคุยกับแม่ ตนอยากให้ลูกมาคุยมาปรึกษา ดีกว่าให้ลูกมาทำแบบนี้ ส่วนสามีก็เสียใจไม่คิดว่าลูกจะคิดสั้นเหมือนกัน///