วันที่ 11 เม.ย. 63 เวลา  09.00 น. ที่ห้องประชุม สำนักงาน สาธารณสุข จ.ชุมพร  นายวิบูลย์  รัตนาภรณ์วงศ์ ผจว.ชุมพร และนายจิรชาติ เรืองวัชรินท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร แถลงข่าว ณ ห้องประชุมพุทธรักษา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร กรณีพบผู้ป่วยโควิด-19  รายที่ 3 ของจังหวัดชุมพร เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พยาบาลหญิง อายุ 42 ปี  เป็นผู้ป่วยที่พบจากระบบการเฝ้าระวังควบคุมโรค  เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 2 เริ่มกักตัวเมื่อวันที่ 7 เมษายน 63 ตรวจพบเชื้อ วันที่ 10 เมษายน 2563 ผลการตรวจเชื้อโควิด 19 พบเชื้อ SARS-COV-2  การสอบสวนโรคเบื้องต้น

วันที่ 24 มีนาคม 2563 – 2 เมษายน 2563 

                                   เดินทางไป - กลับ ระหว่างสถานที่ปฏิบัติงาน และบ้านพื้นที่อำเภอเมือง   จ.ชุมพร                                      

วันที่ 2-3  เมษายน 2563     ให้การพยาบาลผู้ป่วยรายที่ 2  

วันที่ 4-5  เมษายน 2563    ปฏิบัติงาน รพ.ชุมพร แต่ไม่ได้ให้การพยาบาลผู้ป่วย รายที่ 2                                 

วันที่ 6  เมษายน 2563       พักอยู่ที่บ้าน  เดินทางขึ้นเวรดึก ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.

วันที่ 7 เมษายน 2563        เข้าเวรดึก แต่ไม่ได้ให้การพยาบาลผู้ป่วยรายที่ 2 

(เวลา 08.00 น.)    ลงเวร  เดินทางเข้าสู่ระบบการกักตัว 14 วัน ไอเล็กน้อย

วันที่ 8  เมษายน 2563       เก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ

วันที่ 10 เมษายน 2563       ผลการตรวจสิ่งส่งตรวจ  พบเชื้อ  SARS-COV-2

                         

       ขณะนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายที่ 3รับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมพรฯ  มีขวัญกำลังใจดีมาก ร้องขอโทรศัพท์ถึงครอบครัว และขอให้ตรวจสอบคนในครอบครัว 2 คน ให้ละเอียด ซึ่ง สสจ.ชุมพรรับปากว่าจะดูแลอย่างดีที่สุด” กรณ๊ดังกล่าว ทำให้ รพ.ชุมพร ต้องเข้มงวดในพื้นที่เสี่ยงภายใน รพ.คือ ตึกอายุรกรรมหญิงที่ประกาศปิดตั้งแต่ พบผู้ติดเชื้อรายที่2 โดยให้ รปภ.ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าโดยเด็ดขาด อีกทั้งมีระบบป้องกันบุคคลากรทางแพทย คนอื่นๆเต็มระบบ  ส่วน รพ.ชุมพรยังเปิดบริการตามปกติ ยกเว้นคลีนิคนอกเวลา

 

 นพ.จิรศักดิ์ สสจ.ชุมพร กล่าวต่อว่า มีเรื่องที่น่ายินดี คือ ผู้ป่วยรายแรกที่เป็น นศ.หญิง อายุ 21 ปี ที่รักษาตัว ใน รพ.หลังสวน จ.ชุมพร  รักษาหายเป็นปกติมานานกว่า 5 วัน แต่ยังมีเชื้อโควิดในเลือดทำให้ ต้องอยู่ ที่ รพ.หลังสวน เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา พบว่าคนไข้รายนนี้ไม่มีเชื้อโควิดในเลือด แล้ว จึงให้เดินทางกลับบ้านได้  ส่วนคนไข้รายที่2 ยังคงอยู่ในห้องไอซียู แต่อาการคงที่ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ/