วันที่ 10 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย กัมพูชา หมู่บ้านแหลม หมู่ที่ 4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี คราคล่ำไปด้วยรถขนส่งสินค้าสารพัดขนาด ตั้งแต่รถปิกอัพไปจนถึงรถบรรทุกสิบล้อมีพวง โดยต่างบรรทุกสินค้าเข้าออกระหว่างฝั่งไทยและกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเจ้าหน้าไทยและกัมพูชาคัดกรองตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อรถสินค้าที่เข้าออกของแต่ละคันอย่างเข้มงวด ทั้งนี้สินค้าส่วนใหญ่ที่ส่งไปกัมพูชารวมทั้งขายภายในตลาดจุดผ่านแดนดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นอาหารสด อาหารแห้งและผลไม้ ซึ่งมีคำสั่งซื้อมายังพ่อค้า แม่ค้าชาวไทยอย่างไม่ขาดระยะ ทำให้บรรยากาศการค้าคึกคักผิดหูผิดตาไปจากช่วงเวลาที่ยังไม่มีการปิดด่านชายแดน จนสามารถเห็นได้ชัดเจน

ดร.ฐวิทย์ ตั้งเกียรพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า กัมพูชาได้สั่งห้ามไม่ให้ประชาชนของกัมพูชาเดินทางข้ามจังหวัดภายในกัมพูชา คำสั่งนี้มีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น.ของคืนวันที่ 9 เม.ย. 63  เรื่อยไปและยังไม่ชัดเจนว่าจะยกเลิกคำสั่งเมื่อไหร่ ยกเว้นรถขนส่งสินค้าสามารถเดินทางไปจังหวัดต่าง ๆ ในกัมพูชาได้ คำสั่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการค้าชาวกัมพูชาได้สั่งซื้อสินค้าไทยผ่านจุดผ่านแดนถาวรหมู่บ้านแหลมในปริมาณกว่าเดิมถึงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ การซื้อขายสินค้าไทยในกัมพูชาจึงเป็นไปอย่างคึกคักอย่างยิ่ง จากเดิมที่สั่งซื้อมีมากอยู่แล้วนับตั้งแต่มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่ไทยใช้เป็นต้นมา 

 

 

 

 

ดร.รัฐวิทย์ เปิดเผยอีกว่า ความต้องการสินค้าไทยปริมาณมาก ทำให้เกิดความขาดแคลนสินค้าไทยจำพวกอาหารแห้งจำนวนมากในกัมพูชา เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง และอื่น ๆ อีกนับสินรายการ ขณะเดียวกันสินค้าไทยก็มีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกัมพูชา แต่ไม่ได้เป็นปัญหาในการซื้อสินค้าไทย ที่สำคัญ การที่เวียดนามปิดพรมแดนกับกัมพูชาในบางจุด การที่ สปป.ลาว เมียนมา ปิดประเทศ ทำให้ความต้องการสินค้าไทยในประเทศเพื่อนบ้านมีมากเป็นประวัติการณ์ จนขนส่งแทบไม่ทัน ก่อนปิดด่าน กัมพูชาใช้สินค้าไทยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอยู่แล้ว หลังจากปิดด่านและเวียดนามปิดพรหมแดนบางจุดที่เชื่อมต่อกับกัมพูชา ทำให้กัมพูชาหันมาใช้สินค้าไทยเต็มที่ ถือเป็นโอกาสที่ดีของสินค้าไทย