เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"นายกอบต.ชะแล" นำคณะ ร่วมกับชาวอำเภอทองผาภูมิ ขี่จยย. ร่วมกันดับไฟป่า เพื่อลดปัญหาหมอกควันและ PM2.5


7 เม.ย. 2563, 14:58



"นายกอบต.ชะแล" นำคณะ ร่วมกับชาวอำเภอทองผาภูมิ ขี่จยย. ร่วมกันดับไฟป่า เพื่อลดปัญหาหมอกควันและ PM2.5




วันที่ 7 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB  news นายบรรจง รสจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร ทหาร  ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านทิพุเย ประมาณ 15 คน ร่วมกันดับไฟป่า บริเวณพื้นที่ หมู่ 3 บ้านทิพุเย ตำบลชะแล   อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี  เนื่องจากปัจจุบัน หมู่บ้านทิพุเย ตำบลชะแล กำลังประสบปัญหาหมอกควันไฟเป็นอย่างมาก ไฟได้ไหม้ป่าเป็นวงกว้าง  

โดยเจ้าหน้าที่ร่วมกิจกรรมคาราวานมอเตอร์ไซต์ดับไฟป่า เพื่อให้การเดินทางคล่องแคล่วว่องไวใช้มอเตอร์ไซค์ เป็นยานพาหนะในการเดินทางเข้าไปดับไฟป่า ซึ่งภารกิจในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ช่วยกันดับไฟป่าได้สำเร็จ  เพื่อลดปัญหาหมอกควันและ PM2.5 ภายในหมู่บ้านและพื้นที่โดยรอบ

 

สำหรับที่อำเภอสังขละบุรี นายอำเภอสังขละบุรี ขับมอไซด์ ลุยป่า เข้าไปเยี่ยมและให้กำลังใจ ชาวบ้านจะแก ที่ทำกันกักตัว 14 วันหลังจากเดินทางกลับจาก กทม.หลังถูกเลิกจ้าง  พร้อมทั้งกำชับผู้นำท้องที่ให้สำรวจจำนวน และความต้องการ เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

 

นายปกรณ์  กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี เดินทางโดยรถจักรยายนต์  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อ.ส. เข้าไปยังบ้านจะแก หมู่ที่6 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลที่สุดของ อำเภอสังขละบุรี โดยมีระยะทางห่างจากตัวอำเภอ 90 กม. และตั้งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก โดยใช้เวลาเดินทางนานกว่า 6 ชม. เพื่อติดตามมาตรการป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า หรือโควิต-19 ของชุมชน ภายหลังจากได้รับรายงานจาก นายภิรมย์ กมลยืนยง ผู้ใหญ่บ้าน ว่าขณะนี้มีชาวบ้านที่เดินทางไปทำงานและศึกษาต่อ ในพื้นที่ กทม.และพื้นที่ต่างจังหวัด เดินทางกลับมาในหมู่บ้าน ภายหลังจากถูกเลิกจ้าง และปิดสถานศึกษา กว่า 10 คน

 

โดยเบื้องต้นทุกคนที่เดินทางกลับมา ได้มีการนำมารายงานตัว และมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่สถานีอนามัยบ้านจะแก พบว่าทุกคนปกติ และได้ทำการกักตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่บ้านและที่นาหรือไร่ พร้อมทั้งสั่งไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวและคนในชุมชน จนกว่าจะครบ14วันตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข

 

จากการลงพื้นที่พบปะพูดคุย ของนายอำเภอ พบว่าชาวบ้านจะแก ส่วนใหญ่ทราบข้อมูลและวิธีการป้องกันตนเองจากโรคไวรัสโคโรน่า จากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้นำชุมชน รวมทั้งการติดตามข่าวสารจากสื่อโทรทัศน์ และสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆของทางราชการ จึงทำให้ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีชาวบ้านในหมู่บ้านป่วยด้วยโรคโควิต-19  ทั้งนี้ด้วยความห่างไกลและยากลำบากในการเดินทางและการสื่อสาร เนื่องจากในหมู่บ้านไม่มีโทรศัพท์ ต้องอาศัยขอใช้สัญญาณinternet ของโรงเรียนบ้านหินตั้ง ในการส่งข้อมูล รายงานสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งประสบอุปสรรคเนื่องจากบางช่วงสัญญาณขาดหาย และด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชน ทำให้นายอำเภอต้องเดินทางมาด้วยตนเอง อีกทั้งการเดินทางมาทำให้ได้พบปะพูดคุย ให้กำลังใจและรับฟังปัญหาจากชาวบ้านเอง เป็นการสื่อสารตรง เพื่อจะได้นำปัญหาและความเดือดร้อน ความต้องการของพี่น้องประชาชน ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้บังคับบัญชาระดับสูง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

 

น.ส.ินิสา อรุณศรีสุวรรณ เดินทางกลับมาจากกทม.ภายหลังจากร้านอาหารที่ทำงานกับสามี ถูกปิดลงและเจ้าของร้านบอกเลิกจ้าง ประกอบกับความวิตกกังวลต่อความร้ายแรงของโรคโควิต-19 ทำให้ตัดสินใจเดินทางกลับมาบ้าน ทุกวันนี้ตนเองอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่กำลังสร้างแม้ยังไม่แล้วเสร็จ โดยมีครอบครัวคอยทำอาหารให้กิน ส่วนลูกสาววัย3ขวบก็มีแม่คอยดูแลให้ ส่วนสามีตั้งแต่เดินทางกลับมาถึงบ้านหมู่บ้านก็ได้แยกตัวเองไปอยู่คนเดียวที่ไร่  ก่อนเดินทางกลับตนเองได้ลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือตามโครงการของรัฐบาลไว้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้ไม่รู้จะติดตามข่าวสารอย่างไร ส่วนสามีไม่สามารถใช้สิทธิได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับสัญชาติไทย ตอนนี้ลำบากเนื่องจากตกงานและไม่มีรายได้ ทั้ง 2คน จึงอยากให้ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือ

 

ด้าน น.ส.วรรณพร โต้งฟ้า เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองตัดสินใจเดินทางกลับมาบ้านตั้งตังแต่วันที่ 27มี.ค.ผ่านมาหลังจากที่ไม่สามารถไปฝึกงานได้ เนื่องจากเกิดวิกฤติการระบาดของไวรัสโคโรน่า ทุกวันนี้ยังคนกักตัวอยู่ในบ้าน เพราะไม่อยากให้เป็นที่กังวลของญาติๆและเพื่อนบ้าน และยังปฎิบัติตนตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

 

ด้านนายภิรมย์ กมลยืนยง ผญบ.บ้านจะแก เปิดเผยว่าปัจจุบันนอกจากมาตรการขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่อื่น ให้กักตัวเพื่อป้องกันโรคแล้ว ทางหมู่บ้านยังมีมาตรการห้ามบุคคลจากที่อื่นเดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันการนำโรคเข้ามาในหมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผู้ป่วยด้วยโรคโควิต19ในหมู่บ้าน ซึ่งหากทุกคนให้ความร่วมมือ เชื่อว่าชาวบ้านจะแกทุกคนจะปลอดภัยจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นนอน.ซึ่งปัจจุบันนี้ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

 



 


 


คำที่เกี่ยวข้อง : #ไฟป่า   #อบต.ชะแล   #ทองผาภูมิ   #กาญจนบุรี  




Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.