ที่เพจเฟซบุ๊กของ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 ได้มีการเผยแพร่ข้อความ เกี่ยวกับบทลงโทษ กรณีชายหนุ่ม วัย 24 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ได้ฝ่าฝืนคำสั่งไม่กักตัว หลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ด้วยเป็นบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย หรือ โรคระบาด จึงให้แยกกักตนเองเป็นเวลา 15 วัน ที่ภูมิลําเนา ตําบลแม่มอก อําเภอเถิน จังหวัดลําปาง ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 11 เมษายน 2563 

แต่กลับพบว่า ชายชาวลำปาง รายนี้ นอกจากไม่กักตัว ยังออกพบปะสังสรรค์กับผู้คนในหมู่บ้าน พร้อมทั้งชักชวนคนในหมู่บ้านไปมั่วสุมที่บ้านพักของตนอีกด้วย ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จึงโดนส่งฟ้อง ให้ลงโทษจำเลยสถานหนัก จนศาลมีคำสั่งให้กักขัง 15 วัน  แทนค่าปรับ 7,500 บาท ณ สถานที่กักขังกลางจังหวัดลําปาง
 

ทั้งนี้  นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง ได้ขึ้นข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ฝ่าฝืนคำสั่งไม่กักตัว โดนฟ้องขัง 15 วัน จำเลยมีเจตนาจงใจฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค ซึ่งปัจจุบันมีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง ไม่คำนึงถึงผลกระทบ และไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม จึงขอศาลได้ลงโทษจำเลยในสถานหนักด้วย (คำฟ้องของอัยการ)

แนวทางปฎิบัติในการดำเนินคดีที่มีผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของอัยการสูงสุด (ที่ อส 0001/ว140 ลว. 31 มีนาคม 2563)

#ภารกิจงานอัยการสูงสุด 
ข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรับผิดชอบงานด้านระบาดวิทยา และในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม พรบ.โรคติดต่อพ.ศ. 2558
ผู้อำนวยการโรงพยาบาล มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบงานด้านระบาดวิทยาเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามกฏหมาย มีคำสั่งให้จำเลยในคดีนี้ ที่ร่วมเดินทางมากับบุคคลที่กลับมาจากต่างประเทศกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน ที่บ้านพักของจำเลยแต่จำเลย ไม่กักตัวตามคำสั่งเดินทางออกจากบ้านพักไปพบปะบุคคลอื่นภายในหมู่บ้าน และชวนคนในหมู่บ้านไปมั่วสุมที่บ้านพักที่เกิดเหตุ อัยการจึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนัก จนศาลมีคำสั่งให้กักขัง 15 วัน 

ขอร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม มีหน้าที่ ต้องทำ ไม่รับเชื้อ ไม่แพร่เชื้อ แล้วเราจะรอดไปด้วยกัน