วันที่ 30 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.เมืองสกลนคร พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง ผกก.สภ.เมืองสกลนคร มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ ทำประกันชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด จำนวน 247 นาย ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และ อส.ในการตรวจสกัดคัดกรองหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง แทบไม่มีเวลาพักผ่อน ดังนั้นการทำชีวิตหมู่จึง เป็นหลักประกันให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง โดยนอกจากตำรวจจะทำหน้าที่ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายทุกประเภทแล้ว ขณะนี้ ยังเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้สัญจรผ่านไปมาบนถนนสายหลัก ซึ่งขณะนี้มีด่านตรวจดังกล่าว ในพื้นที่ 18 อำเภอ รวม 73 ด่าน โดยเฉพาะด่านตรวจที่อยู่ในพื้นที่ติดกันกับพื้นที่แพร่ระบาดโควิด-19 เช่น จ.กาฬสินธุ์ จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.มุกดาหาร ที่ยังเหลือคือ จ.บึงกาฬ ที่ยังคงเป็นพื้นที่สีขาว เช่นเดียวกับที่ จ.สกลนคร คือปลอดจากเชื้อโควิด-19 แต่คงมีเข้าเกณฑ์ระวังกักตัวดูอาการ จำนวน 3,084 ราย และมีเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อ 97 ราย ตรวจแล้วไม่พบ 94 ราย รอผลตรวจ 3 ราย  

พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง ผกก.สภ.เมืองสกลนคร กล่าวว่า แม้ว่าจะมีมาตรการของรัฐบาลที่ว่า อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่ก็มีประชาชนส่วนหนึ่งที่ต้องการมาใช้บริการของตำรวจ ซึ่งเราก็มีจุดคัดกรองวัดไข้ ล้างมือด้วยเจลฆ่าเชื้อโรคหน้าโรงพัก ส่วนห้องพนักงานสอบสวนก็มีแผงกระจกกั้นเป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันผู้ใต้บังคับบัญชาให้ได้มากที่สุด ส่วนข้าราชการตำรวจทุกนาย จำนวน 247 นาย ก็ได้รับความเมตตาจาก ผวจ.สกลนคร ผบก.ภ.จว.สกลนคร นายก อบจ.สกลนคร นายกเทศมนตรีนครสกลนคร มาบริจาคหน้ากากอนามัย เจลล้างมือให้ เพราะอยู่ในภาวะที่ต้องร่วมด้วยช่วยกัน บางคนก็กักตัวอยู่บ้าน ในส่วนของตำรวจนั้นก็ต้องออกปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอด ซึ่งไม่ทราบว่าจะต้องเจออะไรบ้าง ดังนั้นเพื่อความมั่นใจเพื่อความสบายใจ ตนจึงจัดทำประกันโรคโควิด-19 ให้กับตำรวจทุกนาย ไม่ว่าจะเป็นสายงานจราจร งานปราบปรามสายตรวจ หรือพนักงานสอบสวน ซึ่งจะต้องปรากฏกายอยู่ตลอด เมื่อทำประกันแล้วรู้สึกดี ที่อย่างน้อยก็ได้ทำให้เกิดความสบายใจ ไม่กังวลต่อการทำงาน ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ผกก.สภ.เมืองสกลนคร กล่าวด้วยว่า สำหรับในช่วงนี้ก็ขอความร่วมมือให้บอกกล่าวญาติพี่น้องที่อยู่จังหวัดอื่น อย่าเพิ่งเดินทางกลับมาบ้าน รอจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย คิดถึงกันก็โทรหรือไลน์หากัน ถ้าหากจำเป็นต้องกลับบ้าน ให้คนในครอบครัว แจ้งต่อ อสม. และผู้ใหญ่บ้านเพื่อเตรียมที่กักกันตัว 14 วัน และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ จนท.สาธารณสุข อย่างเคร่งครัด แต่ต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงและไม่ปกปิดข้อมูล ชุมชนจะดูแลคุณอย่างดี ไม่ได้รังเกียจขอให้คุณอยู่กับบ้านไม่ฝ่าฝืนคำแนะนำ ถ้าหากมีไข้ ไอ มีน้ำมูก ให้รักษาตัวเองก่อนแล้วค่อยกลับมาบ้าน อย่าลืมคนไกล....ยังไม่กลับบ้าน หยุดเชื้อเพื่อสกลนคร และประเทศไทย