ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ห่วงประชาชนนับ 10,000 คน กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง วอนกักตัวเอง
29 มี.ค. 2563, 09:00
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวถึงสถานการณ์การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังจากการไปเป็นประธานในพิธียกเสาเอกศาลาประดิษฐานองค์พระพุทธชินราชจำลองที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้เตรียมจัดสร้างขึ้นมาแล้วว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ วันที่ 28 มี.ค.63 พบว่า ขณะนี้ผลการตรวจพบว่า มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) รวมจำนวน 3 ราย รักษาหายให้กลับบ้านแล้ว จำนวน 1 ราย และยังคงนอนพักรักษาตัวที่ รพ.ศรีสะเกษ จำนวน 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 ราย อยู่ในกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อที่มีภาวะเสี่ยงสูง จากจำนวน 14 ราย มีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จำนวน 49 ราย ซึ่งให้กลับบ้านแล้ว จำนวน 40 ราย ยังคงนอนรักษาตัวที่ รพ.ศรีสะเกษ รวมทั้งสังเกตอาการ จำนวน 9 ราย และมีประชาชนที่กลับมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยง มากักตัวที่บ้านครบ 14 วัน จำนวน 293 ราย ไม่พบเชื้อไวรัส จำนวน 204 ราย คงเหลือที่ต้องกักตัวที่บ้านยังไม่ครบ 14 วัน อีกจำนวน 89 ราย
ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากในขณะนี้ก็คือ หลังจากวันที่ 22 มี.ค. 63 เป็นต้นมา มีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับมาจากกรุงเทพและเขตปริมณฑล ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงได้เดินทางกลับมาบ้าน และได้ไปลงทะเบียนกับ อสม.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ รพ.สต. โดยให้กักบริเวณ 14 วัน ปรากฏว่าถึงวันนี้ยอดในระบบของการตรวจสอบพบว่า มีจำนวนมากกว่า 10,000 คน ตนจึงขอฝากพี่น้องที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดอื่นว่า ท่านจะต้องเข้ามาอยู่ในกติกา คือจะต้องกักกันตัวเองที่บ้าน แยกชีวิตความเป็นอยู่กับคนใกล้ชิดก่อน 14 วัน ตนขอแค่นี้ ขออย่าฝ่าฝืนคำแนะนำของ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.และ รพ.สต. ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำตามข้อปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หากพี่น้องประชาชนที่ต้องกักกันตัวเองออกมาหาดื่มเหล้าแล้วเดินเพ่นพล่านไปในสถานที่ต่าง ๆ ท่านก็อาจจะเป็นผู้ทำให้มีการแพร่เชื้อสร้างปัญหาให้กับสังคม ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.ได้ทำการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายมาแล้ว ตนไม่อยากที่จะปฏิบัติกับประชาชนชาวศรีสะเกษแบบนี้ แต่ว่าเพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยและเพื่อความสงบสุขของสังคม จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงได้กักกันตัวเองที่บ้าน 14 วัน ควรอยู่แต่ในบ้าน งดการพบปะสังสรรค์ หรืออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคโควิด-19 แพร่ระบาดในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษไปมากกว่านี้