เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2563  ผู้สื่อข่าวONB newsรายงานว่า ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ สืบทราบว่า  มีชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยจีวรพระ มาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้  ดังนั้น จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่  ตร.ชุดสายตรวจ เข้าไปทำการตรวจสอบ พบ พระบวร เหล่าทะนนท์ หรือ หลวงเต้ อายุ 48 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนพบว่า อยู่บ้านเลขที่  435 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล  เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นพบว่า มีกระเป๋าเดินทางสีดำ ย่ามพระ   ซึ่งได้พบพระเครื่องหลายองค์   ผ้าจีวรของพระสงฆ์ และยาจำนวน 3 กระปุก  เมื่อขอตรวจสอบใบสุทธิพระ  ปรากฏว่า หลวงเต้  ไม่มีใบสุทธิพระแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้ควบคุมตัวหลวงเต้ ไปที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้พระครูมงคลนันทสาร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม เป็นผู้ลาสิกขาบทให้  แต่เนื่องจากหลวงเต้ไม่มีใบสุทธิพระ จึงไม่ถือว่า เป็นพระ  จึงให้ถอดผ้าจีวรที่ห่มออก แล้วแต่งกายด้วยชุดฆราวาส พร้อมทั้งได้ให้ศีลให้พรนายบวร  จากนั้น  เจ้าหน้าที่ ตร.ได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ต่อไป

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบพระสงฆ์รูปหนึ่งมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย เนื่องจากว่า ใบหน้าคล้ายกับพระบวรหรือหลวงเต้ ที่มีการเผยแพร่ทางโลกโซเชียลว่า  แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์แล้วไปเรี่ยไรเงินทองจากญาติโยมทั่วประเทศ ขณะนี้มาขอพักจำพรรษาอยู่ที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ต.เมืองใต้ อ.เมืองศรีสะเกษ  ตนจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน  ตรวจสอบประวัติของบุคคลดังกล่าว  และพบว่า  พระบวรหรือหลวงเต้  เคยก่อคดีมาแล้วหลายแห่ง  เริ่มตั้งแต่ที่วัดแห่งหนึ่งที่  จ.นครศรีธรรมราช และอีกหลายจังหวัด เคยถูกจับลาสิกขาบทแล้ว  แต่มาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์เพื่อหลอกลวงญาติโยม  ตนจึงได้ควบคุมตัวนายบวร ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป